ตอนที่ 6
“ที่นี่ยังไม่ได้จัดอะไรไว้ในสำนักงานเลยนะ ถ้าแฟงขาดเหลืออะไรขออนุมัติกับคุณภูได้ ส่วนกาแฟก็ต้องเดินข้ามถนนไปซื้อร้านโน้น”
“ไปมาแล้วเมื่อเช้าค่ะ”
“อยู่ ๆ ไปก็คล่องเอง เดินเอานะได้ออกกำลังกายไปด้วย”
“ก็คงต้องเป็นแบบนั้นแหละค่ะ”
“ลืมเล่า คุณภูให้ย้ายไปนั่งในห้องเดียวกับแกค่ะ”
“จริงดิ แกก็บอกพี่หลายหนแล้ว แต่พี่ปฏิเสธ สงสัยไม่มีเพื่อนคุย”
“แต่ว่า...”
“อย่าขัดใจคุณภูนะ ขัดใจก็มีโกรธเหมือนกัน”
มุกรวีทำสีหน้าหนักใจ
“เอานี่ลองเอาเอกสารมานั่งดูก่อน จะได้รู้ว่าหมวดไหนอยู่ตรงไหน เริ่มจากตรงนี้นะ”
“ค่ะ”
“ว่าแต่กลางวันนี้เราจะกินอะไรกันดี”
“เราจะไปกินที่ไหนเหรอคะ”
“ข้าวกล่องนี่ไง เดี๋ยวพี่มีเบอร์โทรสั่ง พอท้องก็หิวเก่ง พี่ขอฟาดสักสองกล่องนะ แฟงจะกินอะไร”
“อะไรก็ได้ค่ะ ขอเมนูแนะนำที่พี่แย้มชอบกินก่อนค่ะ”
“ได้เลย พี่จัดการให้” แย้มรีบโทรสั่ง ทั้งที่ยังไม่ถึงเวลา นางบอกว่าเกรงคิวเยอะ
มุกรวีไม่ห่วงเรื่องกิน แต่เธอกำลังห่วงว่า ชีวิตของเธอจะไปต่ออย่างไรกับท่านประธานภูรี
มุกรวีไม่เจอคุณภูรีอีกเลยในวันนั้น เขาออกไปทำงานด้านนอก ทำให้เธอหายใจโล่งขึ้น แต่ก็ยังมีความกังวลอยู่ ไม่รู้ว่าเจ้านายจะมาไม้ไหน เขาคงจะไม่อะไรอย่างไรกับผู้หญิงแค่คืนเดียวกับเธอกระมัง ถ้ามีโอกาสเธอจะบอกคุณภูรีเสียว่าให้ลืมเรื่องคืนนั้นไปได้เลย
มื้อเที่ยงที่ผ่านมา บุญแย้มซื้อของกินมาเสียเยอะแยะ จึงทำให้อิ่มแปล้ มุกรวีจึงคิดว่ามื้อเย็นนี้เธอไม่ขอกินอะไรดีกว่า ถ้ามีโอกาสจะไปซื้อผลไม้ ขนมปัง แยมมาติดตู้เย็นเอาไว้
เธออาบน้ำและเปลี่ยนชุดนอนแล้ว กำลังจะขึ้นไปนอนบนเตียง
ติ้ง... ติ้ง... มีข้อความเข้า อ้อ... พี่แตงกวานี้เอง
(เป็นไงเงียบเชียว)
(ยุ่งทั้งวันเลยค่ะ)
(งานยุ่งเหรอ)
(แจ็กพอตนะสิ คนที่แฟงมาทำงานแทนเขา จะลาคลอดแล้ว อาทิตย์หน้า เลยอัดงานให้ใหญ่)
(แล้วที่อยู่ที่นอน)
มุกรวีจึงยกมือถือถ่ายรูปตามมุมต่าง ๆ พร้อมกับรูปตัวเองที่นั่งอยู่บนเตียงไปให้พี่สาวดูด้วย
(ล็อกกลอนประตูอะไรให้เรียบร้อยนะ)
(ด้านหน้ามียาม ยี่สิบสี่ชั่วโมงจ้า)
(ค่อยโล่งใจหน่อย)
(ว่าแต่พี่เหอะ คิดถึงฉันหรือเปล่า เหงาไหม)
(ไม่เลย โคตรรู้สึกดี) พร้อมกับสติกเกอร์หัวเราะ
(เอาให้ดีนะ นาน ๆ ไป จะคิดถึงฉันแล้วร้องไห้ขี้มูกโป่ง)
(พี่เคยคิดนะ แบบถ้าไม่มีแกอยู่ด้วยจะเหงาแค่ไหน แต่ตอนนี้สบาย ๆ แบบดีอะ)
(ชิ... ขอให้จริงเหอะ)
(แค่นี้แหละ จะไปให้ข้าวแมว) แล้วก็ถ่ายรูปน้องเหมียววัยกำลังน่ารักสองตัวมาให้ดู
(พี่จะเลี้ยงแมวในบ้านไม่ได้นะ ฉันแพ้ขนแมว)
(ทำไมจะเลี้ยงไม่ได้ แกไม่อยู่แล้ว และไม่ต้องห่วง ห้องของแก ฉันล็อกแน่น แมวเข้าไม่ได้)
(พี่แตง แล้วเวลาที่ฉันกลับไปบ้านล่ะ)
(ค่อยว่ากัน) จากนั้นก็ถ่ายวิดีโอน้องเหมียว ๆ มาให้น้องสาวดูอีก มุกรวีชอบสัตว์นะ แต่เธอเป็นภูมิแพ้ โดยเฉพาะขนแมว
(อ้อ... นี่กะจะยึดบ้านเป็นของตัวเองคนเดียวเลยใช่ไหม)
(ช่ายยย...) ตามมาด้วยสติกเกอร์หัวเราะงอหาย
(ค่อยดูนะ จะฟ้องพ่อกับแม่)
(จุดธูปไปบอกได้เลยนะ พ่อกับแม่รักแมว คงจะเห็นด้วยกับพี่ แค่นี้แหละ)
(พี่แตงงงงงง... โกรธแล้ว)
มุกรวีนั่งหน้าหงิกหน้างออยู่บนเตียง
“พี่แตงทำแบบนี้ กะจะไม่ให้ฉันเข้าบ้านนะสิ เหอะ... อย่าให้กลับไปนะ จะจับทำห่อหมกให้หมด”
ติ้ง... ติ้ง... มีข้อความเข้ามาอีก
(นอนหรือยัง)
ใครอะ! ไม่ได้เป็นเพื่อน แต่ส่งข้อความมา มุกรวีรีบเปิดดูรูปของเขา ‘คุณภู’
(ฉันเห็นไฟในห้องของเธอเปิดอยู่ มาคุยกันหน่อยสิ)
(ยามวิกาลค่ะ ปรกติไม่คุยกับใคร และก็ไม่เหมาะด้วยค่ะ)
(แต่คืนนั้น)
(คืนไหนคะ ไม่มีคืนอะไรที่พิเศษทั้งนั้น แค่นี้ก่อนนะคะคุณภู คือแฟงง่วงมากเลยค่ะ ไม่อยากจะคุยแล้ว ขอตัวค่ะ ฝันดี)
มุกรวีเริ่มตัดบท และรีบปิดมือถือทันที
ภูรีที่ยืนอยู่หน้าห้องของเธอถึงกับชะงักมือที่กำลังเคาะ ก่อนจะลดมือลง ‘เราจู่โจมเธอเยอะไปใช่ไหม’
‘แต่... เธอคิดว่าจะรอดหรือมุกรวี ปฏิเสธต่อไปเถอะ หาข้อแก้ตัวให้ดีนะ’
เขาหัวเราะขึ้นมาเบา ๆ ขบขันนิด ๆ กับท่าทีปฏิเสธ แต่เขาก็รู้ว่าป่านนี้ มุกรวีคงจะใจสั่นหวั่นไหวไปกับเขาแน่ ๆ
และก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ มุกรวีนั่งกุมหน้าอกของตัวเองอยู่บนเตียง ใบหน้าของเธอแดงซ่าน หัวใจลั่นเป็นกลองพาเหรดที่ตีรัว ๆ เขาช่างเป็นคนที่ทำให้เธอหวั่นไหวได้ถึงเพียงนี้ ผู้ชายคนเดียวที่ได้แนบชิดสนิทแน่นเกินกว่าอะไรที่ควรจะเป็น
‘จะว่าไป... ฉันจะทนทำงานกับเขาได้อีกนานไหม และฉันจะหักใจยังไงไม่ให้หัวใจสั่นไปกับเขาได้หรือ’
มุกรวียอมรับเลยว่า คุณภูรีทำให้เธอหัวใจเต้นคร่อมจังหวะได้จริง ๆ
วันต่อมา
“หน้าตาเป็นอะไรทำไมโรยแบบนั้น นอนไม่หลับเหรอ”
มุกรวีคิดวนเวียนเกี่ยวกับเขาจนทำให้เธอนอนไม่หลับไปเลย
“ก็นิดหน่อยค่ะพี่”
“ธรรมดาแหละ เปลี่ยนที่หลับที่นอน วันนี้ไม่มีอะไรมาก ดูงานเก่า ๆ และในคอมพิวเตอร์ พี่จัดเรียงเป็นไฟล์ไว้เรียบร้อยแล้ว”
“คุณภูคงจะเสียใจแย่ ที่พี่แย้มลาคลอด เพราะพี่แย้มทำงานดีและเป็นระเบียบมากค่ะ”
“ว่าไป... พี่ว่าคุณภูน่าจะดีใจมากกว่าที่ได้เปลี่ยนผู้ช่วย เพราะแบบพี่น่ะควงออกงานไม่ได้ แต่ถ้าเป็นน้องแฟงพาไปไหนมาไหน เจ้านายก็ไม่ขายหน้า”
“พูดเหมือนต้องออกงานกับคุณภูด้วย”
“นี่จ้า บัตรเชิญ”
“ไปงานหรือคะ”
“งานกาชาด”
