3. หนีเอาตัวรอด
สัญชาตญาณของภาริตาก็บอกกับตัวเองเลยว่าเธอกำลังตกอยู่ในอันตราย เธอจะต้องหนีจากฝรั่งคนนี้ให้ได้ ไม่อย่างนั้นเธอซวยแน่ๆ นอกจากจะไม่ข่าวแล้วเธอยังจะโดนจับได้อีก ตอนนี้เธอต้องหาทางหนีทีไล่แล้วล่ะ ภาริตาคิดไปก็มองไปรอบๆทันที
“ไม่ได้ยินที่ผมถามเหรอว่าคุณตามเจ้านายของผมมาทำไม....คุณจะตอบมาดีๆหรือให้ผมเค้นเอาคำตอบจากคุณ...” บรูโน่เอ่ยถามด้วยเสียงเข้มแล้วเขาก็เข้าไปใกล้เธอ
“ฉันไม่ได้ตามเจ้านายของคุณสักหน่อย...ฉันแค่จะมาพักที่โรงแรมนี้...คุณอย่ามากล่าวหากันนะ...แล้วรับผิดชอบเลยนะที่คุณทำลายกระจกรถของฉันแตกน่ะ ไม่งั้นฉันแจ้งตำรวจจับคุณแน่” ภาริตาพูดไปก็มองซ้ายทีขวาทีอย่างเอาตัวรอด
“ถ้าคุณไม่ได้ตามเจ้านายผมจริง ผมจะรับผิดชอบให้ แต่ผมต้องตรวจให้แน่ใจว่าคุณไม่ได้ตามเจ้านายของผมมาจริง....พรึบ....เห้ย...ค้นรถของผู้หญิงคนนี้” บรูโน่พูดไปแล้วเขาก็เอามือจับแขนของเธอให้ออกห่างจากประตูรถ แล้วเขาก็สั่งลูกน้องให้ค้นรถของเธอทันที
“อือ..อย่ามาจับตัวฉันนะ...ปล่อย...พรึบ....นี่พวกคุณมีสิทธิ์อะไรมาค้นรถฉันห้ะ ฉัน ฉันบอกแล้วไงว่าฉันไม่ได้ตามเจ้านายของพวกคุณ ทำไมฟังไม่เข้าใจห้ะ” ภาริตาด่าพวกฝรั่งที่เข้าไปค้นรถเธออย่างเสียงดัง
“กรุณาให้ความร่วมมือด้วย...ไม่อย่างนั้นคุณรู้ว่าผมจะทำอะไร...” บรูโน่อ้าแขนเสื้อของเขาให้เธอดูปืนที่เขาซ่อนอยู่ เขาก็เอ่ยขู่เธอทันที
ภาริตาเห็นปืนที่อยู่ในเสื้อของชายหนุ่มตรงหน้าก็กลืนน้ำลายลงคอทันที ถ้ากล้าเอาปืนมาขู่กันขนาดนี้แล้วเธอว่ามันอันตรายสำหรับเธอจริงๆแล้วล่ะ
“นายครับ กล้องโทรศัพท์เปิดค้างไว้อยู่ครับ...” ลูกน้องของบรูโน่ถือโทรศัพท์ของหญิงสาวออกมาให้บรูโน่ดู ซึ่งหน้าจอยังเปิดโหมดถ่ายรูปอยู่ ทำให้บรูโน่รู้ทันทีว่าผู้หญิงคนนี้ต้องแอบถ่ายรูปของเจ้านายของเขาไว้แน่ๆ
ภาริตาก็รู้ชะตากรรมของตัวเองทันทีเลยว่าถ้าชายหนุ่มเปิดเจอว่าเธอถ่ายอะไรเธอต้องไม่รอดแน่ๆ เอาไงดี วิ่งตอนนี้เลยแม่ง..พรึบ...
“จับตัวผู้หญิงคนนี้ไว้...พรึบ...บอกรหัสโทรศัพท์มา...เดี๋ยวนี้ ก่อนที่ผมจะกรอกลูกปืนใส่ปากของคุณ...” บรูโน่มือไวรีบคว้ามือของผู้หญิงคนนี้ได้ เขาก็ดันตัวเธอส่งไปให้ลูกน้องของเขาจับมือเธอไคว่ไปด้านหลังทันที ก่อนจะเอ่ยถามรหัสโทรศัพท์ของเธอ พร้อมกับเอาปืนมาจิ้มที่หน้าสวยๆของเธอแบบขู่
“4321” ภาริตาพูดด้วยเสียงสั่นเลยเพราะปืนจ่อหน้าแบบนี้เธอจะไม่บอกได้ยังไงล่ะ ทำไมเธอต้องมาซวยเจอคนพวกนี้ด้วยนะ
ได้ยินแค่นั้นบรูโน่ก็กดเข้าไปดูรูปถ่ายของหญิงสาวทันที เขาก็เห็นภาพล่าสุดที่เธอถ่ายคือภาพของเจ้านายของเขาและผู้หญิงตั้งแต่ออกจากคลับมา จนกระทั่งคลิปที่เจ้านายเขาเหมือนจะมีอะไรกับผู้หญิงคนนั้นในรถ จนกระทั่งทั้งสองลงจากรถไป บรูโน่ก็กดปิดหน้าจอทันทีแล้วมองหญิงสาวแบบจดจ้อง
“คุณเป็นใคร...มาถ่ายรูปเจ้านายของผมแบบนี้ทำไม ตอบมา...” บรูโน่เอ่ยถามไปแล้วเขาก็เอาปืนจ่อที่แก้มของเธอแบบข่มขู่ให้เธอกลัว
“ฉัน...ฉันเป็นนักข่าวค่ะ ฉันแค่จะมาทำข่าวของคุณแพม ผู้หญิงที่มากับเจ้านายของคุณเท่านั้น...ปล่อยฉันไปเถอะนะคะ ฉันแค่ทำงานตามหน้าที่ของตัวเองเท่านั้น ฉันไม่ได้จะทำอะไรไม่ดีเลยนะคุณ...ปล่อยฉันเถอะนะ ฉันต้องดูแลครอบครัวของฉัน ถ้าฉันเป็นอะไรไป ครอบครัวฉันแย่แน่ๆ แม่ฉันก็ไม่ค่อยสบาย ลูกของฉันก็กำลังห้าเดือนเอง สามีก็มาตายจากไป ถ้าฉันตายไปพวกเขาต้องแย่แน่ๆ ลูกฉันยังกินนมแม่อยู่เลย ปล่อยฉันไปเถอะนะคะ” ภาริตายกมือไหว้แล้วพูดไปอย่างโกหกให้ตัวเองดูน่าสงสาร เพราะนาทีนี้ต้องรอดเท่านั้น
“ถ้าเจ้านายผมไม่สั่งให้จับตัวคุณไว้ ผมก็คงจะปล่อยคุณไปอยู่หรอก ให้ผมรายงานเจ้านายของผมก่อนก็แล้วกัน ถ้าเขาปล่อยคุณไปผมก็จะปล่อย...เห้ย...เดี๋ยวฉันจะไปรายงานนายก่อน...นายเอาตัวผู้หญิงคนนี้ขึ้นรถแล้วรอฉันอยู่ที่นี่...” บรูโน่ได้ยินแบบนั้นก็ถอนหายใจออกมาทันที เพราะเขาก็ไม่ได้อยากจะใจร้ายทำร้ายผู้หญิงที่เลี้ยงดูครอบครัวแบบนี้หรอก แต่จะทำยังไงได้ล่ะ ก็เจ้านายของเขาสั่งให้จับตัวไว้ ถ้าไม่มีคำสั่งเขาก็ปล่อยตัวเธอไปไม่ได้ จากนั้นบรูโน่ก็เข้าไปในโรงแรมทันที
“ครับ...” ลูกน้องของบรูโน่ตอบรับแล้วก็จับมือของหญิงสาวไคว่หลังไว้แล้วพาเธอเดินอ้อมไปหลบมุม
ภาริตาคิดว่าเธอจะต้องหนีก่อนที่จะไปเจอเจ้านายของพวกเขา เพราะลูกน้องยังโหดขนาดนี้แล้วเจานายจะขนาดไหนล่ะ เธอไม่เอาชีวิตของเธอมาเสี่ยงแน่ๆ ภาริตาคิดได้ดังนั้นก็มองชายฝรั่งตัวใหญ่สองคนสลับกันไปมา แล้วเธอก็เอ่ยพูดออกไป
“พวกคุณดูดีกันจังเลยนะคะ...อยากจะหาอะไรทำสนุกๆฆ่าเวลากับฉันไหมคะ” ภาริตาแกล้งเอ่ยถามไปแล้วมองชายฝรั่งตรงหน้าไปแบบยั่วยวน
“หึ..เอาไหมวะ...นายกำลังอยู่กับผู้หญิง ฉันว่าคงอีกนานกว่านายจะลงมา ถ้าเราสนุกกับผู้หญิงคนนี้ก็คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง” ชายหนุ่มฝรั่งพูดเป็นภาษาอิตาเลี่ยน เพื่อเลี่ยงให้หญิงสาวฟังเข้าใจ
“น่าสนนะโว้ย...ผู้หญิงคนนี้ก็สวยน่าเอาซะด้วยว่ะ...เอาไหมวะ ทำเร็วๆฆ่าเวลาไปก่อน” หนุ่มฝรั่งพูดไปก็ยักคิ้วใส่กันทันที
แต่บังเอิญว่าภารตานั้นฟังออกเพราะเรียนนานาชาติมาตั้งแต่เด็ก ซึ่งเธอพูดอังกฤษ จีน เยอรมัน ฝรั่งเศสและอิตาเลี่ยนได้ ทำให้เธอรู้ว่าสองหนุ่มนั้นคล้อยตามเธอแล้ว เธอก็ยิ้มออกมาทันที
“ถ้าพวกคุณสนใจ งั้นก็ปล่อยฉันก่อนค่ะ แล้วเราค่อยมาสนุกกันที่เบาะหลังรถของฉัน...” ภาริตาพูดไปก็แกล้งส่ายก้นยั่วๆไป เพราะพวกผู้ชายมันแพ้มารยาผู้หญิงอยู่แล้ว ยิ่งผู้ชายแบบนี้ก็ยิ่งง่าย
“งั้นฉันเอาก่อนนะ แกดูต้นทางนะโว้ย...ถ้าฉันปล่อยตัวเธอแล้วอย่าคิดตุกติกนะ ไม่งั้นฉันยิงไส้เละแน่” ชายฝรั่งพูดเสียงเข้มๆบอกไปก็ปล่อยตัวหญิงสาวเป็นอิสระทันที
“ไม่ตุกติกหรอกค่ะ งั้นฉันขึ้นรถเลยนะคะ...” ภาริตาพูดบอกไปก็ค่อยๆขึ้นไปบนรถของเธอแล้วก็หันตัวกลับมาแล้วเห็นชายฝรั่งกำลังจะเข้ามาหาเธอ
“ถอดกางเกงก่อนเข้ามาสิ คุณตัวใหญ่ ถอดในนี้มันคงไม่สะดวกหรอก...เร็วสิคะ เราต้องทำเวลานะ...” ภาริตาพูดไปก็เอามือลูบไล้ขาของเธอแล้วค่อยๆรูดกระโปรงขึ้นมาให้ชายหนุ่มเห็นขาอ่อน
“หึ...แรดมาก...เดี๋ยวจะเอาให้หายแรดเลย..” ชายหนุ่มฝรั่งพูดไปก็รีบถอดกางเกงลงทันที
“ฝันไปเถอะว่าจะได้เอาคนอย่างฉัน...ปึก....” ภาริตาเห็นแบบนั้นก็ขัยบตับลุกมาแล้วถีบชายฝรั่งที่ยืนจ่อที่ประตูอย่างแรงเลย แล้วเธอก็รีบคว้าประตูรถของเธอปิดทันที ก่อนจะรีบไปที่เบาะคนขับแล้วกดล็อคประตูรถ แล้วเธอก็ปลดเกียร์แล้วรีบเหยียบรถออกไปทันที ถือว่าเป็นความโชคดีของเธอที่ไม่ได้ดับเครื่อง เลยทำให้เธอหนีออกมาได้
“โธ่โว้ย....เพราะแกเลยทำให้แม่นี่หนีไปได้ แกกับฉันตายแน่ๆ...” เสียงของเพื่อนฝรั่งอีกคนพูดออกมา ขณะที่เข้าไปช่วยเพื่อนลุกขึ้น เพราะถูกถีบที่กล่องดวงใจแบบเต็มๆ
“รีบลุกแล้วขับตามสิวะ..เร็วเข้า...” ชายอีกคนพูดไปก็รีบประคองเพื่อนมาแล้วพากันไปที่รถของพวกเขา ก่อนจะรีบขับตามออกไปทันที
ด้านภาริตาก็ถอนหายใจอย่างโล่งอกที่เธอหนีออกมาได้ เธอก็ไม่รีรอรีบเหยียบรถตรงไปยังบ้านของเพื่อนสนิทของเธอทันที เพราะสภาพรถของเธอตอนนี้ขับกลับบ้านไม่ได้ ไม่อย่างนั้นเป็นเรื่องแน่ๆ
ด้านบรูโน่พอขึ้นมาชั้นที่เจ้านายพักก็มีลูกน้องคอยเฝ้าอยู่ที่หน้าห้องของเจ้านายแล้ว เขาก็เข้าไปที่ห้องของเขาและเปาโลทันที
“เป็นยังไงบ้างวะ จับตัวคนที่ตามนายได้หรือเปล่า มันเป็นคนของใคร” เปาโลเห็นเพื่อนหนุ่มเข้ามาในห้องก็เอ่ยถามอย่างอยากรู้
“จับได้แล้ว...เธอบอกว่าเป็นนักข่าวที่ตามมาทำข่าวของผู้หญิงที่นายเรานอนด้วยน่ะ แต่ฉันจะสืบให้แน่ใจอีกทีว่าใช่จริงหรือเปล่า นายกับผู้หญิงคนนั้นเข้าไปนานหรือยัง...” บรูโน่ตอบไปก็เอ่ยถามเพื่อนทันที
“อืม...ป่านนี้นายของเราก็คงจะสวรรค์ชั้นเจ็ดแล้วล่ะมั้ง...ผู้หญิงคนนี้เล่นยั่วยวนนายตั้งแต่บนรถจนทนไม่ไหวซะขนาดนั้น...นายให้คนของเราจับผู้หญิงคนนั้นมาไว้ที่ห้องรอก่อนละกัน เพราะดูท่าคืนนี้จะยังอีกยาว...” เปาโลพูดออกไปเพราะคิดว่าคืนนี้เจ้านายคงจะอยู่กับดาราสาวทั้งคืน
“อืดๆ....อืดๆ....ฮัลโหล....อะไรนะ...พวกแกดูกันยังไงวะ...ไม่ได้เรื่องกันเลยสักคน...ไม่ต้องตามแล้ว กลับมาที่โรงแรม” บรูโน่กดรับสายแล้วพูดด้วยเสียงเข้มออกไป ก่อนจะกดวางสายไป
“อย่าบอกนะว่าผู้หญิงคนนั้นหนีไปได้น่ะ..” เปาโลเอ่ยถามไปแล้วมองเพื่อนหนุ่มแบบจดจ้อง
“อืม...ตัวแค่นั้นแต่สามารถหนีจากลูกน้องเราไปได้...ฉันประมาทผู้หญิงคนนี้เกินไปจริงๆ...” บรูโน่พูดออกไป เพราะเขาไม่คิดว่าเธอจะหนีไปได้
“แล้วทำไมแกไม่ให้ลูกน้องเราตามหาวะ..ถ้าไม่ได้ตัวมาให้นายล่ะก็ ซวยเลยนะโว้ย...” เปาโลพูดไปเพราะคำสั่งของเจ้านายคือที่สุดแล้ว
“ฉันยึดโทรศัพท์ของผู้หญิงคนนั้นมาแล้ว จะตามตัวก็คงไม่ยากหรอก...รอดูว่าเจ้านายจะว่ายังไงก็แล้วกัน ถ้าเป็นนักข่าวจริงก็แล้วไป เพราะหลักฐานยังอยู่ที่นี่ แต่ถ้าไม่ใช่นักข่าวงานนี้คงต้องตามหาตัวแล้วล่ะ” บรูโน่พูดบอกไปก็เอาโทรศัพท์ของหญิงสาวขึ้นมาแล้ววางไว้
“อืม...รอนายสั่งพรุ่งนี้ก็แล้วกัน...” เปาโลพูดไปเพราะตอนนี้คงทำอะไรไม่ได้ เพราะผู้หญิงคนนั้นก็หนีไปแล้ว คงต้องรอดูว่าเจ้านายของพวกเขาจะว่ายังไง เพราะตอนนี้ลูก้ากำลังสนุกกับดาราสาวอยู่
สามสิบนาทีต่อมา ....
โก้ก็ขับรถเข้ามาจอดในบ้านแล้วลงจากรถเขาก็ขนกระเป๋าเป้กล้องถ่ายรูปออกมา แล้วก็เดินไปที่ท้ายรถแล้วกดปิดประตูบ้าน แล้วอยู่ๆก็มีรถของภาริตาพุ่งเข้ามาจนโก้ร้องออกมาอย่างตกใจเลย
“เห้ยเจ้เบน...เจ้เกือบจะขับชนประตูบ้านผมแล้วนะ” โก้ร้องโวยวายทันที เพราะประตูอัตโนมัติมันค่อยๆเลื่อนปิด ดีนะที่ภาริตาไม่ชนน่ะ ก่อนจะเดินไปหาภาริตาฝั่งคนขับทันที
“แล้วนี่รถเจ้ไปโดนอะไรมาน่ะ ทำไมกระจกรถเจ้มันพังแบบนี้อ่ะ” โก้มองด้วยสีหน้าตกใจ เพราะกระจกเหมือนโดนคนทุบมาเลย
“ก็เพราะฉันตามถ่ายรูปของคุณแพมกับไอ้ฝรั่งคนนั้นไง รถฉันถึงได้พังแบบนี้ ไอ้หมอนั่นมันให้ลูกน้องมาจับฉันน่ะสิ แถมพวกนั้นยังพกปืนด้วย...ฉันโดนเอาปืนจ่อจนแทบจะฉี่ราดอยู่แล้ว ดีนะที่ฉันฉลาดเลยหนีรอดมาได้ ไม่งั้นคงกลายเป็นผีมาหลอกแกแทนแล้วล่ะ...” ภาริตาพูดบอกไปก็กดดับเครื่องแล้วเธอก็ลงจากรถทันที
“แต่คนแบบเจ้ตายยากจะตายไป นรกยังไม่รีบเอาเจ้ไปหรอก แล้วพวกมันทำอะไรเจ้ไหม...” โก้พูดแซวไปก็ถามอย่างห่วงใย
“เดี๋ยวเถอะไอ้โก้ แกอย่ามาจิกกัดฉันนะ...ถ้ามันทำอะไรฉันแล้วฉันจะมายืนคุยกับแกตรงนี้ไหมล่ะ...เสียดายที่มันยึดเอาโทรศัพท์ฉันไป ไม่งั้นคงได้ข่าวใหญ่แล้วล่ะ” ภาริตาพูดไป
“ยังจะกล้าทำข่าวของเขาอีกเหรอเจ้ มีปืนแบบนั้นผมว่าพวกมาเฟียแน่ๆเลย...ผมว่าเราอย่าไปยุ่งเลยเพื่อความปลอดภัยของเราเอง...” โก้พูดออกไปแบบจริงจัง เพราะถ้ามันอันตรายแบบนี้ก็ไม่ควรเสี่ยง
“อืม...ฉันก็คงไม่เอาตัวเองไปเสี่ยงกับข่าวแค่นี้หรอก...แม่งเอ้ย...เสียทั้งโทรศัพท์ เสียทั้งค่าซ้อมรถ โอ้ย...ทำไมฉันซวยแบบนี้เนี่ย....” ภาริตาบ่นไปแล้วก็ทำหน้าบึ้งอย่างอดไม่ได้
“ดึกดื่นป่านนี้แล้วมาเสียงดังบ้านคนอื่นเขาทำไมเนี่ย...ไม่หลับไม่นอนหรือไง...” เสียงของลันนาพูดขึ้นพร้อมกับร่างบางที่เดินออกมาแบบง่วงๆในชุดนอนตัวยาวสีขาว
“ที่รัก....ช่วยเขาด้วย...เขาเกือบตายแล้วนะ...” พอภาริตาเห็นเพื่อนรักของตัวเองก็พูดอ้อนออกไปแล้วเดินเข้าไปกอดทันที
“แกไปทำอะไรมาอีกหึ.....โก้ เล่ามาเดี๋ยวนี้ว่ายัยเบนมันไปก่อเรื่องอะไรมาอีก..” ลันนาถอนกอดจากเพื่อนสาวมาแล้วหันมาถามน้องชายของเธอทันที
“เรื่องมันยาว ฉันจะเล่าให้แกฟังเอง ป่ะ เข้าบ้านกันเถอะ คืนนี้ฉันขอนอนกับแกนะ ฉันไม่อยากกลับไปนอนที่บ้านอ่ะ” ภาริตาพูดบอกไปแล้วก็กอดแขนเพื่อนสาวทันที
“อืม...ป่ะ เข้าไปคุยกันในบ้านเถอะ ” ลันนาบอกไปก็พาเพื่อนสาวเข้าไปในบ้าน
จากนั้นภาริตาก็เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ลันนาและโก้ฟังแบบละเอียดยิบ เพราะถ้าเธอเป็นอะไรไปให้รู้ไว้เลยว่าพวกมาเฟียพวกนี้แน่นอน เธอก็ได้แต่หวังว่ามันจะจบแค่เท่านี้นะ เพราะเธอไม่อยากจะเสี่ยงอีกแล้ว