บทที่ 17 ปลาหมอตายเพราะปาก!
"พระเจ้าช่วย!"คําพูดนี้ทําให้หญิงสาวหลายคนเกือบจะกรีดร้องออกมา ฐานะแบบนี้โดดเด่นจริงๆ ดูลักษณะของหยางเจ๋อก็อายุแค่ยี่สิบกว่าปีเท่านั้น แต่คาดไม่ถึงว่าจะมีความสําเร็จเช่นนี้ ทําให้คนเหลือเชื่อจริงๆ
มีผู้หญิงหลายคนพูดด้วยความอิจฉาว่าถ้าเขาชอบตัวเองก็ดีแล้ว
หญิงเฒ่ามีความสุขมาก เซ็นสัญญาลงมาแล้ว ยังได้รับลูกเขยที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้อีก ตระกูลหลู่ไม่เพียงแต่จะก้าวขึ้นสู่ตระกูลชั้นหนึ่งเท่านั้น แต่ยังมีแววจะกลายเป็นตระกูลอันดับหนึ่งของเมืองหยุนเฉิงอีกด้วย
ในขณะที่ทุกคนกําลังตื่นเต้นอยู่นั้น กลับไม่ได้สังเกตว่ามีดวงตาคู่หนึ่งที่ไม่สนใจเรื่องนี้แม้แต่น้อย ตรงกันข้ามกลับจ้องมองหยางเจ๋อด้วยสายตาดูถูกเหยียดหยาม ราวกับมองคนประหลาดคนหนึ่ง หยางอีเองไม่เคยเจอคนที่หน้าด้านไร้ยางอายเช่นนี้มาก่อน วันนี้เขาได้เห็นความร้ายกาจของหยางเจ๋อแล้ว เป็นตัวตลกที่ทําได้แค่ขู่ขวัญเท่านั้น
ในเวลานี้ เขาหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาและโทรออกในขณะที่ทุกคนยกย่องหยางเจ๋อ เขาพูดกับโทรศัพท์อย่างเย็นชาว่า"ห้านาที ฉันต้องการให้ชื่อหยางเจ๋อหายไปจากรายชื่อเขตทหารตั้งแต่นี้เป็นต้นไป"
เสียงของเขาไม่ดัง แต่กลับทําให้ทุกคนได้ยินหมด ทุกคนหันไปมองเขาพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย
"คนโง่นั่นไง เมื่อกี้เขาพูดอะไรพวกคุณได้ยินชัดหรือยัง เขาบอกว่าให้ชื่อของคุณหยางหายไปในเขตทหารหลังจากห้านาที เวลาเขาคุยโทรศัพท์ หน้าจอยังเป็นสีดํา เขาตลกอยู่เหรอ?"
"ฟุ่บ!หลายวันก่อนใครบอกว่าเขาหายดีแล้ว ฉันเห็นว่าเขาแย่ลงกว่าเดิมแล้ว การหกล้มครั้งนี้ยิ่งโง่เข้าไปใหญ่เลยใช่ไหม ฮ่าๆ"
"ฉันรู้สึกว่าเขาถูกกระตุ้นนะ เดี๋ยวจะใช้หัวโขกกําแพงอีกหรือเปล่า?"
"......"
หยางอีมองไปที่คนที่เยาะเย้ยเหล่านั้นและถามว่า"ทําไม ไม่เชื่อใช่ไหมล่ะ งั้นก็ดูโทรศัพท์ของเขาในอีกห้านาที"
หยางเจ๋อมองหยางอีไปมา และยิ้ม"คุณแน่ใจหรือว่าฉันจะถูกไล่ออกภายในห้านาที?"
"ขอโทษนะ!"หลู่หานเยว่เดินเข้ามาอย่างกระทันหัน เธอยกมือขึ้นจับแขนหยางอีไว้ แล้วพูดอย่างเขินอายว่า"คุณกําลังทําอะไรอยู่?"
หยางอีมองไปที่หลู่หานเยว่ และพูดกับทุกคนในวิลล่าตระกูลหลู่อย่างจริงจังว่า"ฉันแค่ไม่ชอบให้ใครเอาสิ่งที่ฉันทําไปโอ้อวด แล้วของขวัญเหล่านั้นฉันค้างต่อเสี่ยวเยว่ ฉันให้คนมาส่ง ส่วนสําหรับสัญญาฉบับนี้ ผู้นำตระกูลเจียงเคยเป็นลูกน้องของฉัน ฉันให้เขาเซ็นให้เสี่ยวเยว่"
ทุกคนในวิลล่าต่างก็เงียบสงบลง ทุกคนจ้องมองไปที่หยางอีด้วยความตกใจสุดขีด
ในที่สุด หลู่หานเฟิงก็อดหัวเราะไม่ได้"ฮ่าๆ คนโง่คนนี้หกล้มจนเป็นโรคจินตนาการแล้วหรอ เขาเป็นผู้ให้ของขวัญพวกนั้นเหรอ เขาเอาอะไรมาให้เล่า เพชรโลหิตหงส์ ไวน์แดงของแดนเหนือ วิลล่าสุดหรูของว่านฉงโหลว เงินของขวัญสามสิบแปดล้านแปดหมื่นแปดพัน!คุณเปฌนคนคิดสิ่งเหล่านี้ออกมาหรือ?แล้วอีกอย่าง ผู้นำตระกูลเจียงกลายเป็นลูกน้องของเขา นี่มันฃตลกใช่ไหมเล่า?"
เมื่อหลู่หานเฟิงพูดคําพูดนี้ออกมา เสียงหัวเราะเยาะเย้ยก็ดังขึ้นทั่ววิลล่า
หลู่หานเยว่รู้สึกอับอายขายหน้า คนเราไม่มีเงินหรือไม่มีอะไรก็ได้ แต่ทําไมต้องพูดคําที่กําเริบเสิบสานแบบนั้นด้วย เธอบอกหยางอีไปแล้วครั้งหนึ่ง นึกไม่ถึงว่าเขาจะกล้าพูดแบบนั้นอีก
อาจเป็นเพราะความอิจฉาริษยา!เมื่อเห็นหยางเจ๋อให้ประโยชน์มากมายแก่หลู่หานเยว่ เขาก็เกิดความอิจฉาขึ้นมา ดังนั้นจึงเริ่มพูดโอ้อวดเพ้อฝัน แต่นี่ไม่ใช่สิ่งที่หลู่หานเยว่ต้องการ หลู่หานเยว่เพียงหวังว่าหยางอีจะเป็นคนปกติ
"พอแล้ว!"หญิงเฒ่าโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ กระทืบเท้าอย่างแรง พูดกับหยางอีว่า"ไสหัวไป!วันเวลาที่มีความสุขแบบนั้น ฉันไม่อยากเห็นไอ้ขยะนี่ หมดความสุขไปแล้ว!"
หยางพูดไม่ออกทันที พูดตามตรงไม่มีใครเชื่อเลย ครอบครัวนี้ดื้อรั้นและโง่เขลาจริงๆ
ทันใดนั้นโทรศัพท์ของหยางเจ๋อก็ดังขึ้น เขาหยิบโทรศัพท์ออกมาดูและพบว่ามันโทรมาจากด้านบน เขารีบรับโทรศัพท์และพูดกับโทรศัพท์ว่า"สวัสดีครับ ท่านผู้บัญชาการ!"
เสียงผู้ชายที่เต็มไปด้วยความโกรธดังออกมาจากปลายสาย"หยางเจ๋อ แกจะถูกไล่ออกจากเขตทหารตลอดกาล ตั้งแต่วันนี้แกห้ามก้าวเข้ามาในพื้นที่ของฉันอีกแม้แต่ครึ่งก้าว ถ้าฝ่าฝืนจะถูกประหารชีวิต!"
"ซี๊ด!"หยางเจ๋อกลัวจนขนที่หลังลุกชันเพราะคำว่าประหารชีวิต
เขาถามอย่างไม่เข้าใจ"ทําไมล่ะครับ ผู้บัญชาการ"
ผู้ชายที่อยู่ฝั่งนั้นพูดว่า"อย่าถามมาก แกไปยุ่งกับคนที่แกไม่ควรไปยุ่ง คนใหญ่คนโตคนนั้นยังให้ฉันบอกเหตุผลกับแกอีกข้อหนึ่ง ปลาหมอตายเพราะปาก!"
"ตุ๊ดตุ๊ดตุ๊ด"พูดจบก็วางสายไป
หลังจากหยางเจ๋อปลดประจําการแล้วสามารถเข้าสู่เขตทหารของภูมิภาคซีหนานได้ คือพ่อของเขาใช้เส้นสายมากมายจึงเข้าไปได้ ถ้าพ่อของเขารู้เรื่องนี้เข้า เขาจะต้องหักขาของเขาอย่างแน่นอน!
แค่ประโยคเดียวก็ทําให้เขาเสียตําแหน่งไปแล้ว นี่มันล่วงเกินใครกันแน่!
หรือว่าจะเป็นเขา หยางเจ๋อมองไปที่หยางอี เขาเพิ่งพูดว่าห้านาทีจะให้หยางเจ๋อหายไปจากรายชื่อเขตทหารทันที นี่เพิ่งผ่านไปห้านาทีเองไม่ใช่เหรอ?
ไม่ ไม่ ไม่ จะเป็นเขาได้อย่างไร เขาเป็นแค่คนโง่เท่านั้น!
เมื่อเห็นสีหน้าของหยางเจ๋อไม่ค่อยดี หญิงเฒ่าจึงถามว่า"เกิดอะไรขึ้นหรือ?คุณหยาง ใครโทรมาหรอ?"
หยางเจ๋อฝืนยิ้มและพูดว่า"ไม่เป็นไร หัวหน้าของผมโทรมาและบอกว่าให้ผมกลับไปในสัปดาห์หน้า เพื่อมอบหมายงานให้ผมเท่านั้นครับ"
ท่ามกลางสายตานมัสการมากมาย แน่นอนว่าเขาจะไม่ยอมรับว่าสายนี้เป็นการลบชื่อเขาออกจากเขตทหาร ดังนั้นเขาจึงต้องแกล้งทำต่อไป ที่นี่คือเมืองหยุนเฉิง ไกลจากหนานหลิงมากเลบ
"โอ้!ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว"หญิงเฒ่าหัวเราะเบาๆ แล้วพูดว่า"คืนนี้ไปที่โรงแรมฮัวหลง จัดงานเลี้ยงฉลอง!"
ตอนเย็น ณ โรงแรมฮัวหลง
ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ในตระกูลหลู่ต่างก็มีความสุขมาก เมื่อคนทั้งตระกูลมาที่โรงแรมฮัวหลงอย่างมีความสุขก็เหมาทั้งโรงแรมลง แน่นอนว่ายังมีคนที่ไม่มีความสุขมาก เช่นครอบครัวของหลู่หานเฟิงปละหลายครอบครัวที่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับหลู่หานเฟิง โรงแรมฮัวหลงแห่งนี้เป็นโรงแรมระดับห้าดาวของเมืองหยุนเฉิงและเป็นโรงแรมที่มีชื่อเสียงมากในเมืองหยุนเฉิงถือว่าเป็นหนึ่งในโรงแรมที่ดีที่สุด
งานเลี้ยงเริ่มขึ้นแล้ว หลู่หานเฟิงและคนอื่นๆต่างถลึงตามองครอบครัวของหลู่หานเยว่ ตอนนี้คนที่อยู่ข้างๆหญิงเฒ่าคือซ่งเยว่หัวและหลู่หานเยว่ และหยางเจ๋อด้วย คนอื่นๆล้วนยืนอยู่ข้างๆ ในสายตาของหญิงเฒ่ามีแต่พวกเธอเท่านั้น
อาจกล่าวได้ว่า ครั้งนี้หลู่หานเยว่ได้กลายมาเป็นที่สนใจของตระกูลหลู่ ตั้งแต่นี้มาตระกูลของพวกเขามีแนวโน้มที่จะก้าวกระโดด พอนึกถึงว่าต่อไปหลู่หานเยว่อาจเหยียบหลู่หานเฟิงให้อยู่ใต้ฝ่าเท้า เธอก็โมโหแทบตาย
แน่นอนว่าหยางอีไม่ได้พลาดงานเลี้ยงนี้ นี่เป็นการฉลองให้กับภรรยาของเขา เขาจะไม่อยู่ได้อย่างไร แม้ว่าเขาจะอยู่ที่นี่ แต่เขาก็อยู่ไกลจากหญิงเฒ่ามาก หญิงเฒ่าอยู่ด้านในสุดของงานเลี้ยงและเป็นโต๊ะที่สูงส่งที่สุด ส่วนเขาอยู่ที่นั่งข้างประตู นี่เป็นตําแหน่งที่แย่ที่สุด แทบจะสัมผัสไม่ถึงบรรยากาศอะไรเลย
แต่สิ่งเหล่านี้ไม่สําคัญสําหรับหยางอี เพราะทุกคนที่นี่เป็นเพียงมดในสายตาของเขา