12 เรามาไกลแล้ว
มนิษาไม่อยากหัวเราะได้อย่างเขาบ้าง แต่ความรู้สึกของเธอตอนนี้มันหนักอึ้ง จนไม่สามารถหัวเราะออกมาแบบนั้นได้เลย ยอมรับว่าดีใจที่ราฟาเอลไม่คิดจะทอดทิ้ง แต่มันเหมือนกับเธอเป็นคนเห็นแก่ตัว เพราะรู้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเพราะเขาช่วยเธอให้หลุดพ้นจากความทรมาน
แล้วถ้าบิดารู้เรื่องนี้ เขาจะยังให้เธอไปแต่งงานกับคนอื่น มันก็เหมือนกับการย้อมแมวหรือเปล่า หรือคนที่จะมาเป็นหุ้นส่วนไม่ได้สนใจเรื่องนี้
ระหว่างที่มนิษาอาบน้ำราฟาเอลก็เอาชุดที่ซื้อมาแขวนในตู้เสื้อผ้าที่อยู่ในห้องแต่งตัวติดกับห้องน้ำ เขาตะโกนบอกเธอจากข้างนอก แล้วกลับออกมานั่งรอในห้องรับแขก
ราฟาเอลนั่งมองข้อมูลของโรงแรมที่เขาตัดสินใจจะเข้าไปมีส่วนร่วม ครั้งแรกที่ติดต่อไปคือจะซื้อขาดแล้วทุบทิ้งสร้างเป็นโรงแรมแรมแห่งใหม่เพราะเขาไม่ชอบตัวโรงแรม แต่อยากได้ที่ดินผืนนั้นมากกว่า
ถ้าไม่ได้เจอมนิษาเขาก็คงยอมปล่อยโรงแรมนี้ไปแล้วหาซื้อที่อื่น แต่เพราะข้อเสนอของคุณโชติที่ยอมขายในราคาที่ต่ำกว่าเดิมแต่ต้องแต่งงานและมอบหุ้นให้เขาอีกจำนวนหนึ่ง ราฟาเอลคิดว่าเรื่องนี้เขายอมรับได้ เพราะในวันแต่งงานเขาจะใส่ชื่อมนิษาแทนชื่อพ่อของเธอ คุณโชติคงไม่กล้าโวยวายต่อหน้าคนอื่น
เขาเองยังไม่เคยเจอกับคุณโชติเลย เพราะที่ผ่านมาเจโรมเป็นคนติดต่อทางนั้นตลอด
ราฟาเอลคิดว่าคงจะเข้าพบคุณโชติสักครั้ง เพื่อตกลงเรื่องรายละเอียดกันอีกที เรื่องนี้เขายังไม่ได้บอกมนิษาแต่มั่นใจว่าบอกไปแล้วเธอคงจะไม่โกรธเขา เพราะทุกอย่างที่ทำก็เพื่อจะได้ใช้ชีวิตร่วมกัน
ตั้งแต่เหตุการณ์คืนนั้นมนิษาก็ยังไม่ได้ออกจากคอนโดแห่งนี้ ราฟาเอลบอกกับเธอว่าที่นี่เป็นคอนโดของเจ้านาย
เธอขอกลับไปที่คอนโดของเอริญา แต่เขาก็บอกว่าตอนนี้เสี่ยอดุลย์โกรธมากเรื่องที่โดนเขาทำร้ายจนจมูกหัก เขากลัวเสี่ยจะไม่ยอมจบแค่นั้นจึงไม่อยากให้มนิษากลับไปอยู่ตามลำพัง
หญิงสาวนึกถึงใบหน้าเปื้อนเลือดของเสี่ยคนนั้นและใบหน้าลูกน้องของเขาแล้วเธอจึงยอมอยู่ที่นี่ อย่างน้อยก็คงต้องรอให้เอริญากลับมาก่อนเธอจะขอเข้ากลับไปส่งที่นั่นอีกครั้ง
วันนี้ราฟาเอลออกไปทำงานตอนกลางวันและแวะซื้ออาหารเย็นกลับเข้ามาอย่างเคย
“เหนื่อยไหมคะ”
“ครับ วันนี้มีประชุมทั้งวันเลย”
“คุณต้องเข้าประชุมกับเจ้านายทุกครั้งเหรอคะ”
“ครับ ผมน่ะมือขวาของเจ้านายเลยนะครับ”
“เชื่อแล้วค่ะ ว่าเป็นลูกน้องคนโปรดถ้าไม่อย่างนั้นเจ้านายคงไม่ให้มาพักที่นี่หรอกค่ะ หิวหรือยังคะ”
“ครับ”
“ถ้างั้นกินข้าวแล้วค่อยไปอาบน้ำนะคะ” หญิงสาวรีบเอาอาหารออกจากล่องจากนั้นทั้งสองก็นั่งทานกันเหมือนกับหลายวันที่ผ่านมา
ปกติแล้วหลังเลิกงานราฟาเอลมักจะออกไปดื่มกับเพื่อนแต่พอเขาพามนิษามาอยู่ด้วยก็ไม่ได้ออกไปดื่มที่ไหน เขาอยากใช้เวลากับเธอให้เต็มที่ อยากรู้จักเธอในทุกแง่มุม เพราะมั่นใจว่าในอนาคตเธอกับเขาจะต้องได้ใช้ชีวิตร่วมกันอย่างแน่นอน
มนิษากำลังแชทกับเอริญา เธอไม่ได้เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับตัวเองให้กับเพื่อนฟังเพราะตอนนี้ทุกอย่างมันดีขึ้นแล้ว พอเห็นราฟาเอลเดินออกมาก็รีบเก็บมือถือ
“คุยกับเพื่อนเหรอครับ”
“ค่ะ คุยกับเอริ อีกไม่กี่วันเอริก็จะกลับมาแล้วค่ะ”
“ถ้าเพื่อนคุณกลับมาคุณจะทิ้งผมไปอยู่กับเขาใช่ไหม”
ราฟาเอลทิ้งตัวลงนั่งข้างกับหญิงสาว สองมือกอดไปที่เอวคอด จมูกโด่งคลอเคลียไม่ห่าง
“ไม่ได้ทิ้งค่ะ แค่กลับไปอยู่จุดเดิม”
“ผมว่าคุณกลับไปไม่ได้แล้ว เรามาไกลเกินกว่าจะกลับไปแล้วนะครับ ไหนคุณบอกจะอยู่กับผมจะให้ผมดูแลคุณ”
“คุณอยากให้ฉันอยู่ที่นี่กับคุณจริง ๆ เหรอคะ”
“จริงสิครับ คุณได้ผมแล้วนะจะมาทิ้งกันไปง่าย ๆ ได้ยังไงครับ”
“แล้วฉันพูดหรือยังล่ะคะว่าจะทิ้ง”
“มะนาว สัญญาได้ไหมว่าจะไม่ทิ้งผม”
“ค่ะ แล้วคุณล่ะคะ”
“ผมสัญญาเลยว่าจะไม่มีทางทิ้งคุณไปไหน จากนี้ผมจะมีแค่คุณคนเดียว สาบานเลยก็ได้ครับ”
“ถึงขั้นสาบานเลยเหรอคะ”
“สำหรับคุณต่อให้ต้องสาบานอีกกี่รอบผมก็ยอมครับ”
“มีใครเคยบอกไหมว่าคุณเป็นผู้ชายที่ปากหวานมาก”
“คุณเป็นคนแรกที่ชมผมเลยนะครับ ส่วนใหญ่เพื่อนมันจะบอกว่าผมปากหมา”
“เวลาอยู่ด้วยกันทีไรคุณก็พูดหวานใส่ฉันตลอด”
“ผมพูดกับคนที่ผมรักเท่านั้นครับ”
ราฟาเอลดึงเธอขึ้นมานั่งบนตก สองแขนกอดแน่นขึ้นทีละนิด จมูกแทบไม่ห่างจากแก้มเนียนที่กำลังแดงระเรื่อขึ้นทีละนิด
“ทั้งปากหวานทั้งขี้อ้อน”
“คุณชอบให้ผมอ้อนไหม”
“ค่ะ ฉันว่าน่ารักดี”
“คุณก็น่ารัก น่ากิน น่ากอดแล้วก็น่า..”
“พอแล้วไม่ต้องพูดต่อแล้ว” มนิษารีบยกมือขึ้นมาปิดปากคนช่างพูดที่ยิ้มตาเป็นประกาย
“ไม่ให้พูดแล้วให้ทำอย่างอื่นไหม นะครับผมขอได้ไหม”
ไม่ใช่แค่เขาที่มีความต้องการเพราะมนิษาเองก็รู้สึกแบบนั้น เธอจำได้ดีว่าเขาทำเธอมีความสุขมากแค่ไหน แม้ว่าคืนนั้นสติของตนเองจะไม่ค่อยเต็มร้อยก็ตาม
“มันจะไม่เจ็บใช่ไหม”
“ผมสัญญาจะทำให้คุณเจ็บน้อยที่สุด มีความสุขมากที่สุดเชื่อใจผมนะมะนาว”
“ค่ะฉันเชื่อว่าคุณจะทำได้อย่างที่พูด”