ตอนที่ 11 ห้อง VVIP
“ ไม่ทราบว่าเพื่อนของคุณลูกค้าชื่ออะไรคะ “
“ ฐาณัฐ ค่ะ “
“ ค่ะ สักครู่นะคะ “
รายชื่อที่น้องสาวพูดออกไปมันทำให้ผู้เป็นพี่อย่างรพีสะดุ้งตกใจก็ไหนบอกว่ามาตามหาเพื่อนแล้วทำไมถึงได้พูดชื่อเพื่อนรักของเขาได้ ก่อนที่สองคิ้วหนาจะขมวดเข้าหากันเป็นปม และกำลังจะถามน้องสาวออกไปแต่ยังไม่ทันไรพนักงานหน้าเคาน์เตอร์ก็พูดแทรกขึ้นมาซะก่อน มันจึงทำให้คำพูดของเขากลืนหายเข้าไปในลำคอ เขาจะรอฟังว่าผลมันจะออกมาเป็นยังไง
“ อะ เอ่อ ไม่มีลูกค้าชื่อนี้พักอยู่ที่นี่ค่ะ “
เมื่อค้นพบแล้วว่าชื่อของสามีเธอไม่ได้อยู่ที่นี่มันจึงทำให้เธอโล่งใจ ก่อนที่สมองจะคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ถ้าไม่มีชื่ออีกคนก็คงจะต้องลองชื่อของอีกคน เผื่อคนที่เปิดห้องจะเป็นหญิงสาวที่เคยมีเรื่องกับเธอ
“ งั้นเป็นชื่อพลอยไพลินค่ะ “
“ พลอยไพลินนะคะ ค่ะ ชื่อผู้พักคุณพลอยไพลิน สกุลวัฒน์ใช่ไหมคะ “
“ ใช่ค่ะชื่อนี้แหละ “
“ พักอยู่ชั้น vip ห้อง 999 ค่ะ “
คำพูดที่พนักงานหน้าเคาน์เตอร์พูดมันทำให้รติรสหัวใจตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม เป็นอย่างที่คิดเอาไว้ไม่มีผิดถ้าไม่ใช่ชื่อของสามีเธอก็ต้องเป็นชื่อของผู้หญิงอีกคนแล้วมันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ ร่างกายจากที่ตอนแรกยืนอยู่นิ่งกับสั่นไปหมดทั้งตัว เม็ดเหงื่อเล็กๆซึมออกมาบริเวณกรอบหน้า
ด้วยความที่กลัวว่าเมื่อเจอห้องพักแล้วเปิดเข้าไปจะต้องเจอกับอะไรอีก และเมื่อรพีเห็นอย่างนั้นก็เบิกตากว้างด้วยความตกใจ ตอนแรกก็ตกใจกับรายชื่อของคนทั้งคู่มากพออยู่แล้ว ยิ่งมาเห็นน้องสาวมีอาการแบบนี้เขายิ่งรู้สึกตกใจเข้าไปกันใหญ่ ไม่รู้ว่านี่มันเกิดเรื่องบ้าอะไรกันแน่
“ ช่วยนำไปเลยได้ไหมคะเราจะได้ไปช่วยเขาได้ทัน ไม่รู้ว่าป่านนี้จะเป็นอันตรายร้ายแรงอะไรหรือเปล่า “
“ ได้ค่ะ ได้ค่ะ เดี๋ยวยังไงเชิญทางนี้เลยค่ะ เดี๋ยวจะให้พนักงานนำทางไปเดี๋ยวนี้เลย “
เอ่ยจบพวกเขาทั้ง 3 รวมถึงพนักงานก็ทำการสาวเท้าไปยังห้องพักห้องนั้นทันที ในใจของพวกเขาเต้นแรงไม่เหมือนกัน ตัวพนักงานต้องรีบไปเพราะเกรงว่าลูกค้าที่เข้ามาพักจะเกิดอันตรายก็ตอนที่โทรเข้าไปไม่มีใครรับสายเลย ส่วนร่างบางที่รีบไปเพียงเพราะต้องการอยากรู้ว่าทั้งหมดทั้งมวลมันคือเรื่องจริงหรือไม่ ไม่มีใครคาดเดาอะไรได้เพียงแค่ต้องเห็นด้วยตาของตนเอง
“ Ok ไหมเราอะ ใจเย็นๆมันอาจจะไม่ใช่อย่างที่แกคิดก็ได้ “
เมื่อมาถึงยังหน้าห้องคนเป็นพี่ชายก็จัดการพูดปลอบใจน้องสาวออกไปในทันที เพราะตอนนี้น้องสาวของเขาเอาแต่ยืนนิ่งไม่ไหวติงใดๆเลย มันจึงทำให้เขารู้สึกอดเป็นห่วงไม่ได้ ไม่รู้หรอกว่าเหตุการณ์ต่อจากนี้จะเกิดอะไร แต่เขาก็อยากให้น้องของเขาทำจิตใจให้สบาย เพราะไม่อยากให้กระทบกระเทือนอะไรต่อเด็กในท้องที่ได้ชื่อว่าเป็นหลานของเขา
“ ติก็หวังให้มันเป็นอย่างนั้นนะคะ เพราะถ้ามันไม่ใช่อย่างที่คิดติจะรู้สึกเสียใจและโกรธเพื่อนของพี่มากๆเลย “
คนตัวเล็กทำการหันไปพูดกับคนที่เป็นพี่ชายแววตาบ่งบอกถึงความเป็นกังวล เธอหวังว่าเรื่องทุกสิ่งทุกอย่างมันจะเป็นเพราะเธอคิดมากไปเอง และภาพที่เห็นในหน้าจอนั้นขอให้มันเป็นเพียงแค่ภาพตัดต่อ ก่อนที่รพีจะทำการลูบศีรษะของคนเป็นน้องสาวเพื่อทำการปลอบประโลมอีกครั้ง ในใจเขาคิดว่าอยากให้มันเป็นแบบนั้นจริงๆ หวังว่าเพื่อนชายของเขาจะไม่ทำให้ตัวเขาผิดหวัง
ก๊อก ก๊อก
ร่างบางทำการสูดลมหายใจเข้าออกลึกๆก่อนที่ฝ่ามือเรียวจะยกขึ้นมาเคาะห้องที่เธอยืนอยู่ แต่ทำยังไงก็ไม่มีเสียงตอบรับใดๆกลับมา ทั้ง 3 หันมองหน้ากันก่อนที่พนักงานจะงัดวิธีสุดท้ายมาใช้นั่นก็คือการใช้คีย์การ์ดสแกนเข้าไปโดยที่ไม่ได้ขออนุญาต
มาถึงตรงนี้แล้วผู้ที่อยู่ในชุดยูนิฟอร์มไม่สามารถที่จะทำอะไรได้นอกจากถือวิสะเข้าไปเลย ไม่เช่นนั้นลูกค้าที่อยู่ด้านในอาจเป็นอันตรายตามที่หญิงสาวร่างบางได้บอกกล่าวเอาไว้ก่อนหน้านี้ และคนที่จะเดือดร้อนก็คงจะหนีไม่พ้นพนักงานที่อยู่ที่นี่ด้วยกันทั้งหมด
“ คงไม่มีใครมาเปิดหรอกค่ะดิฉันคิดว่าคงต้องใช้คีย์การ์ดเข้าไปเท่านั้น “
“ งั้นคุณพนักงานก็เปิดเลยค่ะ “
“ ค่ะ “
