ตอนที่ 8
ทุ่มตรง ไม่ขาดไม่เกินประตูห้องพักก็ถูกเคาะเบาๆ ตามด้วยเสียงทุ้มนุ่มถามเข้ามา
“พร้อมจะไปกันหรือยังครับ”
ประมาณสิบวินาที ประตูห้องพักหมายเลข412 เปิดออกแทนคำตอบ หญิงสาวได้ยินหายใจแรงจากร่างสูงเพรียว สวมสูทกลางคืนสีขาวสะอ้าน
จอมสุรางค์พอจะรู้ตัวอยู่เหมือนกันว่า ตนนั้นจัดเข้าประเภทคนสวยคนหนึ่ง แต่เพิ่งมาแน่ใจในความสวยของตัวเองจริงๆ ก็วันนี้ เมื่อได้เห็นแววชื่นชมพร่างพราวบนสีหน้าแววตาของชายหนุ่ม
“เอ่อ... ไปกันหรือยังคะ”
คำพูดฟังขัดเขินของหล่อนนั้นเองทำให้เขารู้สึกตัวว่าเผลอจ้องหล่อนอยู่นานจนลืมนึกถึงมารยาท
“ขอโทษ คุณสวยเสียจนผมตะลึง เชิญครับ”
เขาทำแขนงอๆ ให้หล่อนเกาะ จอมสุรางค์ออกจะเขินแต่ก็ยอมสนองความต้องการของชายหนุ่ม
ที่โต๊ะอาหารหล่อนได้รู้จักกัปตัน และเพื่อนร่วมโต๊ะครบชุด หล่อนเป็นคนเอเชียคนเดียว นอกนั้นเป็นชาวตะวันตกที่คนไทยเรียกรวมๆ ว่า ‘ฝรั่ง’ แม้แต่กัปตันก็ยังเป็นชาวอเมริกัน แต่เชื้อสายโปรตุเกส
กัปตันกิเยอร์โม คอร์เต เป็นหนุ่มใหญ่รูปหล่อ และมีเสน่ห์
เมื่อได้รับการแนะนำให้รู้จักหล่อน เขาก็ขยับยืนตัวตรงซ่นเท้ากระทบกันแบบทหารก่อนจะโน้มตัวก้มศีรษะลงจับมือจอมสุรางค์ขึ้นจูบ
“รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รู้จักสาวสวยจากแดนไกล”
จอมสุรางค์หัวเราะ เพราะรู้ว่ากัปตันหนุ่มใหญ่ไม่ได้ตั้งใจจะพูดจีบ แต่การหว่านเสน่ห์กับผู้หญิงสาวๆ ดูจะเป็นงานอดิเรกของเขา
หลังจากรับประทานอาหาร ริชาร์ด วิลเลียมก็ชวนหล่อนไปต่อที่ห้องเต้นรำ
ขณะพากันเดินเข้าห้องเต้นรำนั้นเอง ก็มีเสียงเรียกชื่อชายหนุ่มแทรกขึ้นมาท่ามกลางเสียงดนตรี เสียงพูดคุย
“ริชชี่... คุณจริงๆ ด้วย? คุณมาทำอะไรที่นี่?”
เจ้าของเสียงสดใสทักทายด้วยภาษาอังกฤษ แต่ก็แปลได้ใจความดังนี้ แทบจะปลิวเข้าหาร่างสูงของคนที่เดินตามมาข้างๆ จอมสุรางค์
“ไม่นึกไม่ฝันว่าจะมาเจอคุณที่นี่”
สาวผมบลอนด์ หุ่นนางแบบ ซึ่งเป็นคนละคนกับแม่สาวหุ่นงาม ผมสีออกทองแดงที่จอมสุรางค์เห็นยืนอยู่กับเขาบริเวณทางเดินเมื่อช่วงบ่ายพูดติดต่อกัน ท่าทางสนอกใจใคร่รู้ยิ่งนักที่มาเจอชายหนุ่มบนเรือโดยสารข้ามมหาสมุทร
“มาพักผ่อนหรือว่ามาทำอะไรคะ? นานแค่ไหนแล้วนี่ที่เราได้เจอกันเลย อุ๊ยตาย! ขอโทษค่ะ นี่คงจะไม่ใช่ภรรยาของคุณหรอกใช่ไหมคะ?”
ภาษาอังกฤษสำเนียงอเมริกันพูดติดต่อกันฉอดๆ เริ่มมีแววไม่แน่ใจนัก
“สวัสดี เฟย์รีน ผมก็ไม่นึกไม่ฝันเหมือนกันว่าจะ ‘บังเอิญ’ มาเจอคุณบนเรือลำนี้ ว่าแต่มากับใครล่ะ ได้ข่าวว่าคุณเลิกกับเศรษฐีชาวกรีกนานแล้วไม่ใช่หรือ”
ชายหนุ่มทักตอบ แต่น้ำเสียงของเขา จอมสุรางค์อดรู้สึกไม่ได้ว่าแฝงนัยบางอย่าง และแม่สาวผมบลอนด์ นามเฟย์รีนก็ต้องรู้สึก เพราะเจ้าหล่อนมีสีหน้าเจื่อนลง แต่พริบตาเดียวก็สามารถยิ้มหวานออกมาได้ แต่ก่อนจะทันตอบคำถามฟังกระเซ้าเย้าแหย่ประสาคนเคยรู้จักของชายหนุ่ม ก็มีเสียงพูดหนักๆ แทรกขึ้น
“เราต้องไปกันแล้วที่รัก”
จบคำ ชายฝรั่งตัวสูงใหญ่ ผมสีฟางแห้ง ก็วางแขนล่ำสันโอบไหล่สาวเฟย์รีนรั้งตัวให้เดินออกประตูห้องเต้นรำไปทันที โดยไม่เหลือบแลใครทั้งนั้น
‘พ่อคนเสน่ห์แรง!’
จอมสุรางค์นึกหมั่นไส้ เพราะทันได้เห็นสาวผมบลอนด์ที่จำต้องเดินตามแรงเจ้าของแขนล่ำสันที่โอบรอบไหล่ แต่ก็ไม่วายหันมาส่งยิ้มหวานให้พ่อหนุ่ม ‘ริชชี่’ ตบท้ายก่อนลับออกประตูไป
‘ไปที่ไหนดูเหมือนจะไม่เคยขาดสาวๆ วิ่งเข้ามาหา แล้วนี่ไม่รู้ว่าเอาแม่สาวผมสีทองแดงหุ่นงามนั่นไปทิ้งไว้ไหน’
“ไปเต้นรำกันดีกว่าครับ”
คนถูกหมั่นไส้ไม่รู้ตัวก้มลงพูดเสียงนุ่ม
ทั้งที่เกิดความหมั่นไส้พ่อคนเนื้อหอมขึ้นมารุนแรง แต่จอมสุรางค์ก็ยังออกไปเต้นรำกับเขาเพลงแรก จากนั้นหล่อนก็แทบไม่ได้หยุดพักขา เมื่อมีทั้งหนุ่ม และไม่หนุ่มเข้ามาขอเต้นรำด้วยแบบไม่ขาดสาย กว่าจะได้เต้นกับชายหนุ่มที่มาด้วยเป็นเพลงที่สองก็ล่วงเข้าช่วงดึก
“ถ้ารู้ว่าพามาห้องเต้นรำแล้วผมจะเข้าไม่ถึงตัวแบบนี้ จ้างให้ผมก็ไม่มาพา”
จอมสุรางค์เงยหน้ายิ้มให้กับเจ้าของเสียงบ่น ความสนุกสนาน เพลิดเพลินที่ได้รับทำให้ลืมความหงุดหงิดที่มีต่อชายหนุ่ม
“ก็คุณไม่เข้ามาขอเองนี่คะ”
“กว่าสิบหนเลยนะ พอผมก้าวออกก็มีหนุ่มบ้าง แก่บ้าง ตัดหน้าเข้าถึงตัวคุณก่อนผมซะละ”
“อยากอืดอาดเอง ช่วยไม่ได้”
“ผมยังไม่แก่นะ” เขารีบยืนยันวัยตัวเอง
“ฉันก็ไม่ได้คุณแก่นี่คะ” จอมสุรางค์ตอบกลับไปขันๆ
“แต่ก็แก่กว่าจุ๋ม”
คนออกตัวว่าตนยังไม่แก่ กลับว่าซะอย่างนั้น
“หลายปีไหมคะ” หล่อนถาม ลักษณะคุยกันเล่นๆ มากกว่าตั้งใจซักไซ้จริงจัง
“ลองทายซิ” เขาทำเสียงล้อหลอกราวกับหล่อนเป็นเด็กๆ
“สิบห้า” จอมสุรางค์เล่นตามบทที่ถูกกำหนด
ชายหนุ่มทำตาโต อุทานเสียงโหย
“โอ๋ยโหย! ในสายตาจุ๋มผมแก่ขนาดนั้นเลยเหรอ”
“อยากให้ทายก็ทายแล้วไงคะ” ว่ายิ้มๆ
“ก็เอาให้มันใกล้ๆ ความจริงหน่อยสิ”
“งั้น... สิบ”
“ก็ยังไม่ถูกอยู่ดี แต่ก็ใกล้เคียง”
คิ้วเรียวสวยเริ่มมุ่นเข้าหากัน สายตาที่เหลือบขึ้นสบตาดำฉายแววนุ่มนวลเปล่งประกายสงสัย ระคนไม่แน่ใจ เมื่อตั้งคำถามกลับไป
“คุณพูดเหมือนรู้ว่าจุ๋มอายุเท่าไหร่?”
คงเพราะเขาออกชื่อหล่อนชัดๆ หลายครั้ง จอมสุรางค์ก็เลยเผลอพูดแทนตัวเอง ‘จุ๋ม’ ออกไปก่อนจะทันรู้ตัว แต่ถึงจะนึกขึ้นได้ก็ปล่อยเลยตามเลย ไม่คิดจะแก้ไข อึกอัก เปลี่ยนจาก ‘จุ๋ม’ เป็น ‘ฉัน’
“ผมค่อนข้างจะเดาอายุคนจากหน้าตาได้แม่นน่ะ”
ถึงแม้ว่าชายหนุ่มจะตอบกลับมาเกือบจะทันทีแต่จอมสุรางค์ก็อดรู้สึกไม่ว่า คำถามตรงๆ ของหล่อนทำเอาเขาชะงักนิดนึงราวกับว่านึกอะไรบางอย่างขึ้นได้ อาจจะเป็นความผิดพลาดที่เขาเองไม่ตั้งใจ แต่อะไรล่ะ ‘ความผิดพลาด’ ที่เขาไม่ตั้งใจ?
