ตอนที่ 5 พี่ชายข้างบ้าน
วันนี้พิภัทรอาสาพาเพื่อนและภรรยา รวมถึงบุตรชายไปทานอาหารนอกบ้าน ทุกคนพูดคุยอย่างสนุกสนาน มีเพียงคมฉณัฐที่นั่งตักอาหารทานอย่างเงียบเชียบ ตั้งแต่มิลันดาจากไปกลับรู้สึกเหงาอย่างประหลาด ไม่รู้ว่าทำไมถึงเป็นเช่นนี้ ทำไมถึงเฝ้าคิดคำนึงถึงตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ หรือท่าทางเขินอายของหล่อน
หรือเขากำลังตกหลุมรักมิลันดาจริงๆ มันไม่เหมาะเลยที่คิดเช่นนี้ หล่อนยังเด็ก หากคบหากันคงถูกคนอื่นนินทาว่าวัวแก่อยากกินหญ้าอ่อนเสียเปล่า สะบัดไล่ความคิดออก ไม่อยากให้ตนเองพลั้งเผลอไปมากกว่านี้
“หนูมิเป็นไงบ้าง ส่งข่าวมาบ้างไหม” พิภัทรถาม มันทำให้คนรอฟังอีกคนเหลือบมองด้วยความสนใจ
“ก็สบายดีค่ะ ตอนนี้กำลังเรียนหนักเลย” ดาวเรืองตอบ
“ถ้าอย่างนั้นคงไม่ต้องห่วงอะไรสินะ”
“ไม่ต้องเป็นห่วงลูกข้าหรอกไอ้ภัทร” ชัยเดชแกล้งเย้า
แค่รู้ว่าเด็กสาวสบายดีก็ดีแล้ว ข่าวแว่วมาว่าสาเหตุที่ทำให้มิลันดาต้องเรียนต่อต่างประเทศมาจากเขา ยิ่งส่งผลให้รู้สึกผิดหนักมาขึ้นอีก มองดูผู้ใหญ่คุยกันพักใหญ่วัยรุ่นเพียงคนเดียวในกลุ่มเลยแยกออกมาเดินเล่นด้านนอก
สายตาชายหนุ่มหยุดนิ่งอยู่ที่ภาพของผู้หญิงที่หน้าตาละม้ายคล้ายแฟนสาวกับหนุ่มที่ไหนไม่รู้กำลังแลกจูบกันอย่างดูดดื่มหน้าผับข้างๆ ร้านอาหาร คมฉณัฐก้าวเข้าใกล้เพื่อดุให้แน่ใจไม่อยากปรักปรำ อยากรุ้ความจริงที่พ่อและน้องมิเคยบอ กเกี่ยวกับแฟนสาว
สองเท้าหยุดชะงักเมื่อภาพเบื้องหน้าเด่นชัดถนัดตา คมฉณัฐรู้สึกเหมือนถูกตบหน้า ดวงตาคมกริบวาวโรจน์ความโกรธแล่นพล่านนี่ตนเองถูกสวมเขาอยู่งั้นเหรอ
“กานต์คุณทำอะไร!” คมฉณัฐตวาดลั่น
สาวเจ้าหยุดแลกจูบ หันมองตามเสียงตวาดเข้ม ดวงตากลมโตเบิกกว้างด้วยความตกใจ รีบผลักไสหนุ่มอีกคนให้ออกห่าง
“คมคุณมาทำอะไรที่นี่คะ” หล่อนถามเขาปากคอสั่น
ชายหนุ่มที่แลกจูบกับกานต์สินี หันหน้ามามองเขาแล้วยกนิ้วโป้งขึ้นก่อนเลียริมฝีปาก เพื่อบ่งบอกว่าแฟนของเขามันสุดยอด ชายแปลกหน้าหัวเราะแล้วเดินผิวปากจากไป ปล่อยให้คมฉณัฐยืนขบกรามแน่นเพื่อระงับอารมณ์เดือด
“ทำไมคุณทำแบบนี้กานต์ ผมไม่อยากจะเชื่อ!” เขาตัดพ้อ
“คมฟังกานต์ก่อน!” กานต์สินีรีบหาข้อแก้ตัว
“คงไม่ต้องฟังอะไรอีกแล้วมั้ง แค่นี้ก็เกินพอแล้ว!” เขาเดินหนีออกมา
กานต์สินีพยายามวิ่งตามเป็นจังหวะเดียวกับที่ทุกคนในร้านอาหารเดินออกมา พิภัทรหยุดมองหญิงสาวกำลังวิ่งตามบุตรชาย หล่อนมายืนดักด้านหน้าเพื่อกั้นไม่ให้แฟนหนุ่มเมิน
“คมฟังกานต์ก่อนนะคะ” กานต์สินีสะอื้น
“ถอยไป” ชายหนุ่มบอกเสียงแข็ง
“กานต์รักคมนะคะ กานต์ผิดไปแล้ว คมให้อภัยกานต์นะคะ” หล่อนพยายามอ้อนวอน
“ผมอาจให้อภัยคุณได้ทุกเรื่อง แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องเดียวที่ผมให้อภัยไม่ได้!” เขาตวาดจนคนฟังสะดุ้ง คมฉณัฐเดินหนีออกมา เห็นบิดาและครอบครัวของน้องมิมองอยู่
ร่างอรชรทรุดกองกับพื้น หล่อนรักเขา แต่หล่อนก็ต้องการเรื่องอื่นไม่ใช่ความรักเพียงอย่างเดียว คมฉณัฐไม่เคยแตะต้องหล่อนเลย เฝ้าพร่ำบอกรอให้พร้อมเสียก่อนเท่านั้น หล่อนทนไม่ไหวเลยหาทางปลดปล่อยตัวเองแล้วมันผิดตรงไหนกัน เขาต่างหากที่ไม่เข้าใจอะไรเลย ทั้งที่หล่อนพยายามทุกทางเพื่อให้เขาตอบรับความต้องการ
“มีเรื่องอะไรกันคม” พิภัทรถามบุตรชาย
“ไม่มีอะไรหรอกครับพ่อ”
เขาเหลือบมองแฟนบุตรชายเห็นกำลังร้องไห้สะอึกสะอื้น ถ้าเดาไม่ผิดคมคงรู้ความจริงแล้ว
“พ่อเตือนแกแล้ว แต่แกไม่เชื่อ แล้วเป็นยังไงเจอกับตัวเองแบบนี้คงเชื่อแล้วสินะ แล้วแกจะทำยังไงกับคนที่แกเข้าใจผิด”
น่าแปลก... ทำไมเขาถึงได้ไม่รู้สึกโกรธกานต์สินีมาก กลับรู้สึกผิดกับมิลันดามากกว่าที่เข้าใจหล่อนผิดไป
“พ่อครับแค่นี้ผมก็รู้สึกแย่พอแล้วนะครับ”
“ความรู้สึกนี่จะติดตัวแกจนกว่าหนูมิจะกลับมานั่นล่ะเจ้าคม”
“แล้วน้องมิจะกลับมาเมื่อไหร่เหรอครับ” เขาหันไปถามดาวเรือง
“อีกนานจ้ะ มิคงกลับมาหลังจากรับปริญญาแล้ว”
กว่ามิลันดาจะกลับมาเมืองไทยไม่รู้อีกนานเท่าไหร่ เขาเองอยากจะขอโทษหล่อนในหลายๆ เรื่อง และอยากจะบอกความรู้สึแท้จริงที่มีออกไป คงทำอะไรไม่ได้ไปมากกว่าการเฝ้ารอสินะมิลันดา