บทที่15 ถ้ายังงั้นเด็กคนนี้คือลูกของนายยังงั้นเหรอ
ไป๋จวู่เวยพยายามกดความตื่นตระหนกของตัวเอง ก้มหน้าลงเล็กน้อย แววตาเป็นประกาย “เธออยู่กับนายทั้งวันทั้งคืน ถ้าเกิดว่าเข้ามาเป็นล่ามที่บริษัทอีก ก็จะใกล้ชิดกับนายมากกว่าเดิมอีก ฉันกลัว กลัวว่าพวกเธออยู่ร่วมกันนานเกินไป จะเกิดความรู้สึกต่อกันได้”
ในเมื่อไม่สามารถซ่อนไว้ได้แล้ว ก็ไม่ไปซ่อนมันแล้ว แถมยังพูดออกมาอย่างไม่เสแสร้ง ทำลายความสงสัยของจงจิ่งห้าว ว่าที่เธอทำแบบนี้ก็เพราะว่ากลัวจะเสียเขาไปแค่นั้นเอง
เธอเบิกตาโพลง ในดวงตานั้นชุ่มไปด้วยน้ำ “นายรู้จักฉันไม่ใช่แค่วันสองคน นายรู้ความรู้สึกที่ฉันมีให้นายดี——”
ไป๋จวู่เวยพยายามกลั้นน้ำตาของตัวเอง “ฉันกลัวว่าจะเสียนายไป ดังนั้น——พอเห็นว่าเธอมาสมัครงานที่บริษัท ก็เลยคิดเอาเองแล้วทำไปตามนั้น”
จงจิ่งห้าวขมวดคิ้ว “ฉันเคยบอกเธอแล้วไง ว่าหลังจากผ่านไปหนึ่งเดือน พวกเราจะหย่ากัน”
ไป๋จวู่เวยรู้ไง ถ้าเกิดไม่รู้ว่าหลินซินเหยียนคือผู้หญิงในคืนนั้น เธอก็ยินดีที่จะรอ รอมาหลายปีขนาดนี้แล้ว เธอไม่แคร์แค่เดือนเดียวนี้หรอก แต่ว่าตอนนี้เธอรอไม่ได้อีกแล้ว
เธอไม่มีทางปล่อยให้เธอใกล้จงจิ่งห้าวมากเกินไป!
ไม่ได้!
“หลินซินเหยียน นี่ของโต๊ะสอง เธอถือเข้าไปเสิร์ฟนะ”
หลินซินเหยียนตอบรับ ไม่รู้ว่าเพราะว่าเมื่อคืนไม่ได้นอนดีๆ รึเปล่า วันนี้พอมาทำงาน ก็ต้องยืนทั้งวัน เลยมีอาการเจ็บปวดที่ท้องน้อย
เธอถือถาดไปยังตำแหน่งโต๊ะที่สอง ยังไม่ทันจะเดินไปถึง หลินซินเหยียนก็เห็นไป๋จวู่เวย ตรงหน้าเธอ——
ไม่ต้องคิดก็รู้ว่าเป็นใคร
เธอลังเลอยู่พักหนึ่ง เป็นเวลาสั้นมาก นี่คืองานของเธอ หลบก็หลบไม่พ้นหรอก
บนใบหน้าของเธอยังคงรักษารอยยิ้มอย่างมีมาตรฐาน “อาหารที่คุณสั่งได้รับแล้วค่ะ”
หลินซินเหยียนโค้งตัว แล้วก็หยิบอาหารในถาดออกมา
ตอนที่เธอวางจานลงตรงหน้าของจงจิ่งห้าว ข้อมือของเธอก็ถูกจับไว้ทันที “เธอทำอะไร? ”
เสียงของเขาเย็นชา และเต็มไปด้วยการตั้งคำถาม
สายตาจับจ้องมาที่เธอ เสื้อเชิ้ตสีขาว เสื้อกั๊กสีดำ กระโปรงสั้นที่พันรอบสะโพกเท่านั้น เผยให้เห็นขาเรียวเล็กสีขาวบางๆ
สายตาจับจ้องไปที่เรียวขาของเธอหลายวินาที แล้วสีหน้าก็เริ่มมืดมน
นี่เธอแต่งตัวอะไรของเธอ? เปิดให้ใครดูกัน?
เธอคือผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว แล้วมาทำอะไรที่นี่?
บนใบหน้าของหลินซินเหยียนยังคงรักษารอยยิ้มไว้ “ฉันทำงานอยู่”
จงจิ่งห้าวขมวดคิ้วและโกรธเล็กน้อย ตั้งแต่เมื่อวานจะทำงานแปลก็เรียกเงินจากเขา ตอนนี้ยังมาทำงานแบบนี้อีก ตระกูลหลินตกต่ำมาจนถึงขั้นนี้แล้วจริงเหรอ?
“รบกวนคุณปล่อยฉันหน่อยได้ไหมคะ? ” หลินซินเหยียนไม่คิดว่ามีอะไร เธอหาเงินด้วยสองมือของตัวเอง
ไป๋จวู่เวยจับมือของจงจิ่งห้าวไว้ “อะห้าว หลายคนมองอยู่นะ มีเรื่องอะไร พวกเราออกไปคุยกันข้างนอกเถอะ”
การแต่งงานของจงจิ่งห้าวกับหลินซินเหยียน ไม่มีใครรู้ ไป๋จวู่เวยไม่อยากให้จงจิ่งห้าวทำให้เรื่องนี้กระจ่าง
จงจิ่งห้าวมองดูหลินซินเหยียน ผ่านไปนาน ถึงได้ระงับความโกรธอย่างไม่มีสาเหตุได้ แล้วก็ปล่อยเธอ “ฉันไม่อยากให้เธอทำงานที่นี่”
หลินซินเหยียนรู้สึกเพียงว่าความเจ็บปวดในช่องท้องส่วนล่างของเธอรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เหงื่อหยดเล็กๆ ผุดออกมาจากหน้าผากโดยไม่รู้ตัว เธออยากจะอธิบาย แต่ว่าเรี่ยวแรงของร่างกายของเธอนั้นไม่สามารถอดทนได้ เธอหยิบถาดขึ้นมาและจากไปโดยที่ไม่ได้พูดอะไร
เธอวางถาดลงแล้วก็เดินไปเข้าห้องน้ำ ความรู้สึกนี้ทำให้เธอหวาดกลัว ยังดีที่ไม่ได้มีเลือดออก
เธอออกมาจากห้องน้ำ ยืนอยู่หน้าอ่างล้างมือ ล้างมือไปด้วยพร้อมกบก้มหน้าลูบท้องของตัวเอง “ลูกน้อยเชื่อฟังหน่อย”
หม่ามี๊จำเป็นต้องหาเงิน ต้องมีเงินถึงจะสามารถดูแลแม่และลูกในท้องได้
ไป๋จวู่เวยเดินเข้ามา แล้วก็ได้ยินประโยคนั้นของเธอพอดี สายตาจับจ้องไปที่ท้องของเธอ หน้าก็ซีดลงอย่างช่วยไม่ได้
หลินซินเหยียนเห็นว่าหน้าเธอซีด ก็อธิบาย “นี่ไม่ใช่ลูกของจงจิ่งห้าว คุณไม่ต้องทำสีหน้าแย่แบบนั้นหรอก”
พอพูดจบหลินซินเหยียนก็ทำตัวเองให้สดชื่นขึ้น เดินอ้อมเธอไป และออกจากห้องน้ำ
“ลูกของเธอ สองเดือนแล้วเหรอ? ” ไป๋จวู่เวยหันหน้ามา
หลินซินเหยียนหยุดเดิน แล้วก็หันหน้ากลับมา “เธอรู้ได้ยังไง? ”
“ฉัน ฉันเห็นท้องของเธอแล้วก็ทายเอา” ไป๋จวู่เวยพยายามฝืนไว้
เธอ เธอท้องยังงั้นเหรอ?
ลูกของจงจิ่งห้าว?!
เป็นอย่างที่คิดไว้จริงๆ ผู้หญิงคนนี้ปล่อยไว้ไม่ได้!
ตอนนี้เอง ไป๋จวู่เวยเป็นบ้าอยากจะกำจัดผู้หญิงคนนี้ ทำให้เธอหายไปจากโลกของจงจิ่งห้าวจนหมดสิ้น!
หลินซินเหยียนเดินออกมาจากห้องน้ำ ก็ถูกจงจิ่งห้าวจับข้อมือไว้ แล้วลากออกมาจากร้านอาหาร
เดิมทีเธอก็รู้สึกไม่ค่อยสบายอยู่แล้ว แล้วถูกจงจิ่งห้าวดึงออกมาแบบนี้ เธอรู้สึกว่าความเจ็บปวดที่บรรเทาลงนั้นรุนแรงขึ้นอีกครั้ง
“ปล่อยฉันนะ!”เดิมทีอยากจะตำหนิ แต่ว่าแรงนั้นไม่มากพอ ขาดพลังไป
จงจิ่งห้าวลากเธอไปหยุดอยู่ข้างถนน ถึงจะปล่อยเธอ แล้วก็พูดด้วยน้ำเสียงและสีหน้าที่เคร่งขรึม “ถ้าเธอต้องการเงินก็บอกฉันได้ ไม่จำเป็นต้องมาเสแสร้งทำเป็นน่าสงสารต่อหน้าฉัน!”
เขาไม่เชื่อ ว่าตระกูลหลินจะตกต่ำจนถึงขั้นนี้ เมื่อสองวันก่อนหลินกั๋วอันพึ่งพาภรรยาและลูกสาวไปจับจ่ายใช้สอยที่ร้านค้าหรู ตอนนี้ เธอกลับมาเป็นพนักงานเสิร์ฟที่ร้านอาหารยังงั้นเหรอ?
หลินซินเหยียนยืนพิงป้ายโฆษณาข้างถนน ไม่ยังงั้นเธอจะประคองตัวเองไว้ไม่ไหว เธอพยายามอย่างมากเพื่อจะสงบสติอารมณ์ของตัวเอง “ถึงแม้ว่าฉันกับคุณจงจะเป็นสามีภรรยากัน แต่ว่าทั้งคุณและฉันต่างก็เข้าใจดีว่า พวกเราก็แค่ทำธุรกิจกันเท่านั้น ธุรกิจที่ต่างคนก็ได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ ฉันจะทำอะไร คุณจงก็ไม่จำเป็นต้องขุ่นเคืองแบบนี้ก็ได้ค่ะ”
“ในเมื่อเธอเป็นภรรยาของฉัน มาทำงานแบบนี้ มันทำให้ฉันขายหน้า!” กับผู้หญิงคนนี้จงจิ่งห้าวคิดยังไงก็คิดไม่ออก การกระทำของเธอ ทำให้คนมองไม่ออกจริงๆ
หลินซินเหยียนเม้มปาก ทนทุกข์ทรมานอยู่เงียบๆ
ตอนที่เธอกำลังจะทนไม่ไหวแล้วนั้น เหอรุ่ยเจ๋อก็วิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว “เหยียนเหยียน ฉันมาตามหาเธอที่นี่ ไม่คิดเลยว่าจะเจอ——เธอไม่สบายเหรอ? ”
ในฐานะที่เป็นจิตแพทย์ เขาก็จะค่อนข้างสังเกตสภาพของร่างกายของมนุษย์อย่างละเอียด ถึงแม้ว่าหลินซินเหยียนจะพยายามอดทนไว้ แต่เขาก็สังเกตเห็นว่าเธอรู้สึกไม่สบาย
ตั้งแต่ที่แยกกับเธอวันนั้น เขาก็ไปที่บ้านของเธอเพื่อตามหาจวงจื่อจิ่น แล้วก็รู้เรื่องราวของหลินซินเหยียนทั้งหมดจากปากของจวงจื่อจิ่น รวมถึงเรื่องเด็กในท้องของเธอด้วยว่าเธอตั้งครรภ์ได้ยังไง
ในใจของเขามีความรู้สึกที่ไม่สามารถอธิบายได้ แต่สรุปก็คือมันยากที่จะรับไหว
เธอต้องพบเจอกับความยากลำบากแบบนั้น ทำไมไม่มาหาเขา!?
เขาอยากจะมาหาเธอ แต่ก็ไม่รู้ว่าเธออยู่ที่ไหน ก็เลยมาที่ที่เจอกันเมื่อวานเพื่อเสี่ยงโชค แต่ไม่คิดเลยว่าจะหาเจอจริงๆ
ตอนนี้หลินซินเหยียนไม่สนใจอะไรแล้ว ความเจ็บปวดที่ท้องน้อยทำให้เธอรู้สึกตื่นตระหนก เธอคว้าแขนของเหอรุ่ยเจ๋อเอาไว้ “รบกวน พาฉันไปโรงพยาบาลหน่อย”
เหอรุ่ยเจ๋อมองไปที่ท้องน้อยของเธอ ตอนที่กำลังก้มตัวจะอุ้มเธอขึ้นมานั้น ก็มีแรงหนึ่งวางตรงไหล่ของเขาอย่างรุนแรง
เขาหันหน้าไป
แล้วก็เห็นว่าสีหน้าของจงจิ่งห้าวนั้นมืดมน “เธอคือภรรยาของฉัน”
น้ำเสียงไม่หนักไม่เบา แต่ว่าสามารถทำให้ตกใจกลัวได้เป็นอย่างมาก!
ราวกับว่าเป็นการเตือน ว่าเธอคือภรรยาของเขา คนอื่นห้ามแตะต้อง!
เหอรุ่ยเจ๋อยิ้ม แล้วก็เหน็บแนมว่า “พวกคุณคือสามีภรรยากันงั้นเหรอ? ”
ไม่รอให้จงจิ่งห้าวโต้ตอบ เขาก็พูดต่อ “พวกคุณก็แค่ทำธุรกิจร่วมกัน คุณไม่มีทางแต่งงานกับผู้หญิงที่มีลูกอยู่ในท้อง”
ดวงตาของจงจิ่งห้าวนั้นหรี่ลง ออร่าของความอันตรายเริ่มแผ่ออกมา “ถ้ายังงั้นเด็กคนนี้คือลูกของนายยังงั้นเหรอ? ”