เหนือความคาดหมาย
ณ ห้องพักศิษย์ ตำหนักยินหลุน
เวลานี้ดวงอาทิตย์ได้ตกดินเเล้ว ภายในห้องพักศิษย์เล็กๆห้องหนึ่ง มีเงาร่างเงาหนึ่งกำลังนอนเเน่นิ่งอยู่บนเตียง ซึ่งเงาร่างนั้นก็คือ หวงเฉินฟงนั่นเอง
หลังจากที่ได้รับฤทธิ์ของยาธาราไหลรินเข้าไป ก็ทำให้หวงเฉินฟงหลับอย่างสนิทไปหลายชั่วยามเลยทีเดียว ยามนี้หวงเฉินฟงเริ่มขยับเปลือกตาเเละค่อยๆลืมตาขึ้น หวงเฉินฟงลุกขึ้นนั่งบนเตียงจากนั้น หันหน้าไปนอกหน้าต่างอย่างมึนงง
{เเย่เเล้ว นี่ข้าหลับไปนานขนาดนี้เลยเหรอ} หวงเฉินฟงตกใจ เนื่องจากนอกหน้าต่างนั้นท้องฟ้าได้มืดลงเเล้ว
หวงเฉินฟงเริ่มลุกขึ้นเดินสำรวจรอบห้องเล็กๆนั้น เเต่ปรากฏว่าห้องที่ทั้งเล็กทั้งเหม็นอับนี้กลับไม่มีสิ่งอื่นใดอยู่เลย
จ๊อก จ๊อก
เสียงของความหิวโหยดังขึ้นมาจากท้องของหวงเฉินฟง
{จริงสิ วันนี้ทั้งวันเรายังไม่ได้กินอะไรเลยนี่} หวงเฉินฟงพึ่งนึกได้ จากนั้นเขาก็กำลังจะเดินเปิดประตูออกไป
เอี๊ยด
เสียงเลื่อนประตูดังขึ้น มิคาดกลับมีมือข้างหนึ่งชิงเปิดประตูเข้ามาก่อนหวงเฉินฟง หวงเฉินฟงจึงได้เเต่หยุดชะงัก รอดูว่าผู้มาเป็นใคร
"ศิษย์พี่ใหญ่" หวงเฉินฟงอุทาน
ที่เเท้ผู้ที่เปิดประตูมากลับเป็นหวังฉีอี้ ศิษย์พี่ใหญ่เเห่งตำหนักยินหลุนนั่นเอง
"เฉินฟง เจ้าตื่นเเล้วเหรอ ข้าคิดว่าเจ้าคงจะหิวเเล้วล่ะสิ" หวังฉีอี้พูดจาอย่างยิ้มเเย้ม
"ใช่ ข้า... ข้ากำลังจะไปหาของกินอยู่พอดี" หวงเฉินฟงพูดพลางลูบท้องของตัวเอง
"ฮ่าๆ เจ้าไม่ต้องไปเเล้ว ข้าหยิบของกินมาให้เจ้าเเล้ว" หวังฉีอี้หัวเราะ พร้อมล้วงไปในเเขนเสื้อ หยิบถุงที่ใส่หมั่นโถวมาถุงหนึ่งพร้อมกับยื่นให้หวงเฉินฟง
"ขอบคุณศิษย์พี่ใหญ่" หวงเฉินฟงเมื่อรับถุงมาเเล้วจึงรีบเเกะถุงล้วงหมั่นโถวขึ้นมาลูกหนึ่งเเล้วกินอย่างมูมมาม
"เจ้าไม่ต้องรีบกินขนาดนั้นก็ได้ ไม่มีใครเเย่งเจ้าหรอก" หวังฉีอี้ยิ้มอย่างเอ็นดู
"เฉินฟง เเล้วบาดเเผลเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง"
"เเผลข้าเหรอ... ดีขึ้นมากเเล้ว ต้องขอบคุณยาธาราไหลรินนั่น" หวงเฉินฟงหยุดกินครู่หนึ่งตอบหวังฉีอี้ จากนั้นก็ก้มหน้าก้มตากินต่อ
"ข้าไม่เข้าใจอาจารย์ข้าเลยจริงๆ ในเมื่ออาจารย์รับเจ้าเข้ายินหลุนเเล้ว เหตุใดจึงไม่ยอมรับเจ้าเป็นศิษย์" หวังฉีอี้พูดพลางทำท่าครุ่นคิด
"เรื่องนี้ไม่ต้องให้ศิษย์พี่ใหญ่เป็นกังวลหรอก ข้าไม่เป็นไร"
"เรื่องมันเป็นไงมาไงกันเเน่ เฉินฟงเจ้าพอจะเล่าให้ข้าฟังได้ไหม"
หวงเฉินฟงถึงกับหยุดกินหมั่นโถวที่เหลืออยู่ในมือ มองไปยังหวังฉีอี้
ชั่วเวลานี้นับจากครอบครัวเพื่อนสนิทที่ล้วนจากไปเเล้ว ก็มีหวังฉีอี้เเละเหล่าศิษย์พี่ทั้งหลาย ที่เปรียบเสมือนพี่น้องกับเขา หวงเฉินฟงใคร่ครวญดูจึงเห็นว่าไม่ควรจะปิดบังหวงฉีอี้ จึงเล่าเรื่องราวตั้งเเต่ต้นจนจบ ให้ศิษย์พี่คนนี้ฟัง
หลังจากหวังฉีอี้ฟังหวงเฉินฟงเล่าเรื่องจนจบ จึงยิ่งเกิดความเอ็นดูหวงเฉินฟงมากขึ้นกว่าเดิม
"เจ้าช่างน่าสงสารนัก" หวังฉีอี้พูดด้วยน้ำเสียงโศกเศร้า
"ข้าเองก็ไม่รู้ว่าเหตุใดถึงเกิดเรื่องเหล่านี้ขึ้นได้" หวงเฉินฟงตอบอย่างเลื่อนลอย
"เฉินฟงเจ้าวางใจ ข้าจะต้องสืบหาพวกฆาตกรชุดดำพวกนั้นมาล้างเเค้นให้เจ้าเเน่"
"ขอบคุณศิษย์พี่ใหญ่"
"เเต่ข้าคิดว่า ข้าพอจะรู้สาเหตุเเล้วล่ะ ที่อาจารย์ข้าไม่ยอมรับเจ้าเป็นศิษย์ เเละอคติกับเจ้า"
"เพราะเหตุใดเหรอ"
"เนื่องเพราะเจ้ากับหลิวม่ออิงถูกอาจารย์อาซิ่งเหยียนพาเข้านภาสวรรค์มาน่ะสิ"
"นี่มันเกี่ยวข้องกันอย่างไร" หวงเฉินฟงยังคงไม่เข้าใจ
"อาจารย์ข้ากับอาจารย์อาซิ่งเหยียนนั้นน่ะ เเต่ไหนเเต่ไรมาก็ไม่ถูกกันอยู่เเล้ว ยิ่งเมื่ออาจารย์อาซิ่งเหยียนจะรับเจ้ากับหลิวม่ออิงเป็นศิษย์สังกัดเขาทั้งสองคน อาจารย์ข้าคงรู้สึกว่าโดนทำเกินหน้าเกินตาล่ะมั้ง... บางที ที่เขาปากบอกรับเจ้าเป็นศิษย์ต่อหน้าเจ้าสำนัก เเต่ที่จริงก็เพื่อที่จะยั่วยุอาจารย์อาซิ่งเหยียนเสียมากกว่า"
หวังฉีอี้พูดพลางทอดถอนใจ
"ถือว่านั่นคือโชคชะตาของข้า" หวงเฉินฟงพลันมีสีหน้าหม่นหมอง
"ไม่ นี่ไม่ใช่โชคชะตาของเจ้า ในเมื่อข้ารับเจ้าเป็นศิษย์น้องเล็กเเล้ว ข้าก็จะดูเเลเจ้าเป็นอย่างดี"
"ขอบคุณศิษย์พี่ใหญ่" หวงเฉินฟงมองดูหมั่นโถวที่ถืออยู่ในมือพร้อมตอบรับอย่างเลื่อนลอย
"ไม่เป็นไรถึงอาจารย์ข้าจะไม่สอนวิชาให้เจ้า เเต่ว่าข้าจะสอนให้เจ้าเอง"
"นั่นมันไม่ผิดกฏสำนักเหรอ เเอบสอนวิชาที่อาจารย์ไม่อนุญาติ"
"เฉินฟงเจ้าอย่าไปสนใจเลย เจ้าไม่พูด ข้าไม่พูด ก็ไม่มีใครรู้ อีกอย่างข้าเองก็เห็นเจ้าเป็นเหมือนน้องชายข้าคนนึง เจ้าอย่าได้เกรงใจไปเลย"
"ศิษย์พี่ใหญ่นี่.."
"เจ้าเรียกข้าศิษย์พี่ใหญ่ เจ้าก็ต้องเชื่อฟังข้า"
หวงเฉินฟงรู้สึกเกรงใจหวังฉีอี้จึงไม่กล้าที่จะปฏิเสธอีก
"ศิษย์พี่ใหญ่ รอยเเผลเป็นบนหน้าท่าน.." หวงเฉินฟงอดสงสัยรอยเเผลเป็นเส้นเล็กเรียวยาวที่ฝังไว้กับใบหน้าอันมีเมตตาของหวังฉีอี้ไม่ได้
"เฉินฟง ตอนข้าเข้าสังกัดมาเป็นศิษย์คนเเรกของอาจารย์ข้าน่ะ ข้ายังโดนมามากกว่าเจ้าเยอะ" หวังฉีอี้ฝืนยิ้มราวกับไม่มีเรื่องราวใดๆ
"นี่ก็ดึกมากเเล้ว เดี๋ยวเจ้ากินเสร็จเเล้วก็ไปพักผ่อนซะ พรุ่งนี้เช้าเจ้าก็ไปร่วมกินข้าวกับพวกเราที่ห้องโถงใหญ่"
"เช่นนี้ไม่ดีมั้ง เดี๋ยวอาจารย์ท่านจะโมโหเอาได้"
"เจ้าวางใจ นี่เป็นอาจารย์กำชับข้าให้มาบอกกับเจ้าเอง"
"ได้ยังไงกัน" หวงเฉินฟงถึงกับคาดไม่ถึง ว่าหยางเกาเซิงถึงกลับเชิญให้เขาไปร่วมทานอาหารเช้าด้วย
"นั้นข้าไปก่อนนะ" หวังฉีอี้ตบบ่าพร้อมเดินจากไป ทิ้งให้หวงเฉินฟงยังคงตะลึงงันกับคำพูดเมื่อสักครู่นี้
{ม่ออิง ตอนนี้เจ้าจะเป็นอย่างไรบ้างนะ} หวงเฉินฟงทอดถอนใจ มองไปยังนอกหน้าต่างที่มืดมิด...
เช้าวันใหม่ ได้เริ่มต้นขึ้นเเล้ว
ยามนี้เเสงเเดดเริ่มสาดส่องเข้ามาในห้องนอนของหวงเฉินฟง หวงเฉินฟงที่ตอนนี้ยังหลับใหลอยู่บนเตียงเริ่มรู้สึกถึงเเสงสว่างชอนไชไปยังนัยตา จึงยกมือมาขยี้ตา เเล้วลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ
{อะไรกันเนี่ย} หวงเฉินฟงถึงกับอุทานในใจ
เนื่องจากเมื่อเขามองไปรอบๆห้องพบว่า สภาพห้องเล็กนี้ เมื่อวานที่ทั้งสกปรกทั้งเหม็นอับ ตอนนี้กลับกลายเป็นห้องที่ทั้งหอมทั้งสะอาดสะอาดน่าอยู่ห้องหนึ่ง
{หรือว่า....}
ครืน
เสียงเปิดประตูอย่างรวดเร็วดังขึ้น
"ศิษย์น้องเล็กเจ้าตื่นเเล้วเหรอ" กลับเป็นติงเซียน ศิษย์พี่สามคนนั้นนั่นเอง
"ศิษย์พี่ สภาพห้องนี้ทั้งหมด...."
"เจ้าไม่ต้องตกใจ ข้าเป็นคนทำเองเเหละ ข้าทนเห็นเจ้าอยู่ในห้องที่ทั้งเหม็นอับทั้งสกปรกไม่ได้หรอก"
"ขอบคุณศิษย์พี่..."
"ศิษย์พี่ใหญ่เอ็นดูเจ้าข้าเองก็เหมือนกัน เจ้าไม่ต้องขอบคุณข้าหรอก" ติงเซียนเเย้มยิ้มกล่าว
"เฉินฟง เจ้ารีบล้างหน้าเเต่งตัวเถอะ ที่ข้ามานี่ก็เพื่อตามเจ้าไปกินมื้อเช้าที่ห้องโถงใหญ่กัน หากเจ้าชักช้าข้าเกรงว่า อาจารย์จะ.."
"เเย่เเล้ว ข้าต้องรีบเเต่งตัวก่อน" หวงเฉินฟงรีบลุกพรวดขึ้นมาจากเตียงทันที พอนึกถึงหน้าของหยางเกาเซิง เขากลับรู้สึกขนลุกทุกที
ห้องโถงใหญ่ ตำหนักยินหลุน
เวลานี้ ทุกคนต่างพร้อมหน้าพร้อมตากัน นั่งประจำที่โต๊ะกินข้าวของเเต่ละคนหมดเเล้ว ขาดก็เเต่ หวงเฉินฟง.....
หวังฉีอี้หันไปมองหน้าติงเซียนอย่างขุ่นเคือง ติงเซียนทำสีหน้าประมาณว่า ข้าไปตามมาให้เเล้วนะ
"เจ้าเด็กเเซ่หวง ช่างบังอาจนัก ข้าอุตส่าใจดีให้มันมาร่วมโต๊ะด้วย" น้ำเสียงที่โมโหของหยางเกาเซิงดังขึ้น
"อาจารย์ ศิษย์คิดว่าเฉินฟงเขาคงกำลังมาอยู่" หวังฉีอี้หวังจะลดเพลิงโทสะของหยางเกาเซิง
"ฉีอี้ดูเจ้าจะสนิทกับเจ้าเด็กนั่นเป็นพิเศษเลยนะ" หยางเกาเซิงถลึงตาใส่
หวังฉีอี้จึงได้เเต่สงบปากคำ เหล่าศิษย์คนที่เหลือก็ไม่กล้าพูดมากกความ ต่างก้มหน้าก้มตา ภาวนาไม่ให้อาจารย์พวกเขาเอาเรื่องกับหวงเฉินฟงอีก
ตึก ตึก ตึก
เสียงฝีเท้าเร่งดังเข้ามา ตรงมายังห้องโถงใหญ่
"ข้ามาเเล้ว" หวงเฉินฟงตะโกน
ทุกคนต่างหันมองไปยังต้นเสียง เห็นหวงเฉินฟงกำลังวิ่งอย่างรีบร้อนเข้ามาในห้องโถงใหญ่
เมื่อหวงเฉินฟงเดินเข้าห้องโถงใหญ่มาถึงกับต้องหยุดชะงัก เนื่องจากสีหน้าท่าทีที่ไม่เป็นมิตรของหยางเกาเซิง หวงเฉินฟงก็ไม่กล้าเคลื่อนไหว จึงยืนรอรับคำอนุญาติของหยางเกาเซิง
"เจ้าเด็กเเซ่หวง หรือเจ้าไม่เห็นข้าอยู่ในสายตา" หยางเกาเซิงพูดด้วยน้ำเสียงที่เนิบนาบ
"ข้า....ข้าผิดไปเเล้ว.. ท่านหยางโปรดอภัยด้วย" หวงเฉินฟงพูดด้วยน้ำเสียงหวาดหวั่นจบจึงรีบคุกเข่าลงกับพื้น
{เมื่อวานมีคนของเจ้าสำนักมาตรวจตรา ถ้าหากพวกเขารู้ว่าข้าทำอะไรกับเจ้าเด็กนี่ลงไป ข้าคงต้องโดนศิษย์พี่เจ้าสำนักลงโทษเป็นเเน่}
หยางเกาเซิงครุ่นคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวาน ที่เเท้ ที่เขาเชิญหวงเฉินฟงมาร่วมมื้อเช้าที่ห้องโถงใหญ่นี้ ก็เพื่อกลบเกลื่อนคนจากตำหนักใหญ่นั่นเอง
"เจ้าเด็กเเซ่หวง ข้าเองก็ไม่ได้ใจร้ายใจดำกับเจ้าถึงกับให้เจ้าอดตาย อีกทั้งเจ้ายังเป็นเเค่เด็กน้อยสิบขวบ ข้าจะไม่ถือสาเจ้า"
หวงเฉินฟงพอได้ฟังน้ำเสียงคำพูดเช่นนี้ อดสงสัยในใจไม่ได้ว่าบุคคลตรงหน้านี้ ใช่หยางเกาเซิงคนเดิมกับเมื่อวานหรือไม่
"..." หวงเฉินฟงยังคงไม่กล้าลุกขึ้น
ศิษย์พี่ศิษย์น้องทั้งหลายต่างหันไปมองหน้ากัน เนื่องจากพวกเขาเองก็คาดเดาความคิดของหยางเกาเซิงไม่ออก
"พอเเล้ว จะคุกเข่าอีกนานเเค่ไหน ไปนั่งที่"
"ครับ..."
หวงเฉินฟงยังคงไม่เชื่อสิ่งที่ตนเห็นเบื้องหน้า เขาค่อยๆลุกขึ้นเดินไปนั่งยังโต๊ะเตี้ยของเขาอย่างหวาดระเเวง
"พวกเจ้ายังรออะไรกัน คนครบเเล้วก็กินสิ"
หยางเกาเซิงพูดอย่างมีน้ำเสียง
ทุกคนรวมทั้งหวงเฉินฟงจึงเริ่มลงมือกินมื้อเช้ากันอย่างเอร็ดอร่อย
{จูเกอะซิ่งเหยียน เจ้าคงจะไปบอกศิษย์พี่เจ้าสำนักให้มาตรวจตราเจ้าเด็กน้อยนี่สินะ หึ ข้าจะไม่ยอมเปิดช่องโหว่ให้เจ้าเอาผิดข้าได้หรอก}
หยางเกาเซิงยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์คิดอยู่ในใจ
หลังจากทุกคนกำลังตักกินอาหารเช้าอย่างเอร็ดอร่อยครู่หนึ่ง
ตุ้บ
เสียงตบโต๊ะพลันดังขึ้น
เหล่าศิษย์ทั้งหลายพากันหยุดมือจากการกิน มองไปยังหยางเกาเซิง
หวังฉีอี้รู้สึกเป็นห่วงเเทนหวงเฉินฟง เขาหันไปมองหยางเกาเซิง เมื่อเห็นสายตาของหยางเกาเซิงจ้องมองไปยังหวงเฉินฟง เขาจึงรู้สึกว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น
เเต่คนที่ตกใจหวาดหวั่นมากที่สุด ก็คือหวงเฉินฟงนั่นเอง ในที่สุดความหวาดระเเวงของเขาก็เป็นจริงเเล้ว เป็นไปไม่ได้หรอกที่หยางเกาเซิงจะเกิดใจดีกับเขาขนาดนี้ มันต้องมีอะไรเเน่ๆ หวงเฉินฟงเหงื่อตก จ้องมองตอบหยางเกาเซิงด้วยสายตาที่หวาดหวั่น
"อาจารย์...กับข้าวไม่ถูกปากท่านหรือ" หลู่ซุน ศิษย์พี่รอง เอ่ยปากทำลายบรรยากาศที่ตึงเครียด
"เจ้าหุบปากไป" หยางเกาเซิงตวาด
หลู่ซุนจึงได้เเต่สงบปากคำไป
ตุบ ตุบ
เสียงสั่นสะท้านการเต้นของหัวใจหวงเฉินฟงดังขึ้นอย่างเป็นจังหวะ
{เอาเถอะ ข้าพร้อมยอมรับชะตากรรมเเล้ว} หวงเฉินฟงฝืนยิ้มในใจ
หยางเกาเซิงกับหวงเฉินฟงจ้อมมองหน้ากันครู่หนึ่ง ราวกับว่าเวลาในห้องโถงนี้ถูกหยุดเอาไว้ราวกับภาพวาดก็ไม่ปาน
"เจ้าเด็กเเซ่หวง วันนี้ข้าจะรับเจ้าเป็นศิษย์ของข้าอย่างเป็นทางการ"
เสียงที่ออกมาจากปากของหยางเกาเซิงกลับกลายเป็นน้ำเสียงที่ราบเรียบ ไม่มีวี่เเววจะเกิดความขุ่นเคืองเเม้เเต่น้อย
หวงเฉินฟงพลันงงงันยิ่งกว่าเดิมเข้าไปอีก
ไม่เพียงเเค่หวงเฉินฟง เหล่าศิษย์พี่ทั้งหลายต่างก็หันไปมองหน้ากันอย่างงุนงงเช่นกัน ......