บทย่อ
เตศวรปลอมตัวเข้ามาเป็นกรรมกรในไร่เพิ่มทรัพย์ เพื่อสืบหาคนวางยาวิทยาเจ้าของไร่ และก็ได้พบกับเด็กสาวอย่างวีรยา ลูกสาวเจ้าของไร่ เขาตกหลุมรักหล่อนตั้งแต่แรกเห็น แต่หล่อนสิ แสดงออกอย่างชัดเจนว่าเกลียดขี้หน้าเขา “ถ้าดื้อแบบนี้ ผมคงต้องเอาคุณอีกสักสองสามรอบ ค่อยมาพูดต่อ...” “อย่านะ” “งั้นก็ฟังผมพูดให้จบก่อนสิครับ อย่าเพิ่งงอน” “ก็...” เขาส่ายหน้าไปมา ก่อนจะทำตาดุๆ ใส่จนวีรยาไม่กล้าหือ “ค่ะ คุณตำรวจใหญ่”
ตอนที่ 1
วีรยา เลิศมงคล หรือที่ทุกคนใน ไร่เพิ่มทรัพย์ เรียกกันว่า คุณหนูฟาง เด็กสาวเพิ่งจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่หกมาได้เพียงแค่สองเดือน และก็ไม่คิดจะเดินทางไปเล่าเรียนต่อที่กรุงเทพฯ อย่างที่บิดาต้องการ แต่ไม่ใช่เพราะหล่อนเป็นคนขี้คร้านเรียนหรอกนะ แต่เป็นเพราะบิดาเจ็บป่วยบ่อย และหล่อนก็ไม่ไว้ใจแม่เลี้ยงวัยกระเตาะของบิดานั่นเอง
หล่อนตั้งหน้าจงเกลียดจงชัง อรัญญา อย่างที่สุด เพราะผู้หญิงคนนี้แย่งบิดาไปจากมารดาของหล่อน และก็เป็นสาเหตุอันดับต้นๆ ที่ทำให้มารดาของหล่อนประสบอุบัติเหตุรถคว่ำในค่ำคืนนั้น
แม้มันจะผ่านมาถึงแปดปีแล้วก็ตาม แต่หล่อนก็ยังจดจำวินาทีเล่านั้นได้เป็นอย่างดี วินาทีที่พ่อนอนกับสาวใช้ และแม่มาเห็นพอดี สงครามครอบครัวเกิดขึ้น และพ่อก็เผลอตบหน้าแม่จนแม่น้อยใจ ขับรถหนีออกไปนอกบ้านกลางดึก และก็เกิดอุบัติเหตุขึ้น
หล่อนเสียใจมาก โกรธพ่อ และก็เกลียดอีแม่เลี้ยงตาใสเป็นที่สุด แต่กลับทำอะไรไม่ได้เลย เพราะพ่อทั้งรักทั้งหลงมันราวกับถูกมนต์เสน่ห์
หล่อนหวังว่าสักวัน จะกระชากหน้ากากของมันออกมาให้ทุกคนเห็นให้ได้ แต่วันนั้นมันจะมาถึงเมื่อไหร่กัน หวังว่ามันจะไม่นานมากเกินไปหรอกนะ
“คุณหนูฟางขา นังจุกมันเห็นคุณนายเดินหายเข้าไปในบ้านพักของนายเตค่ะ”
นายเต หรือว่า เตศวร คนงานหน้าตาหล่อเหลาราวกับนายแบบที่อรัญญารับเข้ามาทำงานในไร่เพิ่มทรัพย์ และอรัญญาก็ให้ความสนิทสนมกับคนงานคนนี้ออกหน้าออกตาเลยทีเดียว
มันต้องมีอะไรในก่อไผ่แน่ๆ
“นังแม่มดหายเข้าไปในห้องของนายเตนานหรือยังลำไย”
หล่อนหันไปถามคนใช้ สีหน้าท่าทางเต็มไปด้วยความไม่พอใจ
หล่อนไม่พอใจเพราะอรัญญากำลังจะกระทำการนอกใจบิดาของตัวเอง หรือว่าเพราะรู้สึกอะไรเกินเลยกับ เตศวรกันแน่นะ
ไม่... หล่อนไม่ได้รู้สึกอะไรกับผู้ชายคนนี้สักหน่อย แม้เขาจะหล่อ หุ่นดี กล้ามโต และมีเสน่ห์เหลือเกินก็ตาม เพราะผู้ชายคนนี้เป็นคนของอรัญญา ผู้หญิงที่หล่อนเกลียดที่สุดในโลก
“เมื่อกี้นี้เองค่ะคุณหนูฟาง”
“งั้นเราไปบุกห้องนายเตกัน เราจะต้องจับให้ได้คาหนังคาเขา คุณพ่อจะได้ตาสว่างเสียที”
“ค่ะ คุณหนูฟาง”
ลำไยตอบรับด้วยความกระตือรือร้น และก็รีบก้าวเร็วๆ เดินตามร่างของเจ้านายวัยกระเตาะไปติดๆ
เรือนพักของนายเตศวรอยู่ห่างออกมาจากเรือนพักของคนงานคนอื่นๆ เพราะชายหนุ่มอยู่คนเดียว ไม่ได้มีครอบครัวมาอยู่ด้วยเหมือนกับคนงานทั่วไป
เขาอยู่ที่นี่มาเกือบสามเดือนแล้ว และทุกครั้งที่เผชิญหน้ากัน วีรยาก็มักจะพูดจาเหน็บแนมเขาเสมอมา แต่นั่นไม่ใช่วิธีกลั่นแกล้งเดียวที่หล่อนใช้กับเตศวร เพราะเมื่อพ่อล้มป่วยจนออกมาคุมงานไม่ได้ หล่อนที่เป็นลูกสาวจึงรับผิดชอบหน้าที่นี้ร่วมกับแม่เลี้ยงอย่างอรัญญา ซึ่งแน่นอนว่าคนงานที่หล่อนตั้งหน้าเกลียดชังตั้งแต่แรกเห็นหน้าอย่างเตศวรจะต้องถูกหล่อนมอบหมายให้ทำงานหนักๆ ในทุกครั้งที่มีโอกาส แต่ทุกครั้งอรัญญาก็มักจยื่นมือเข้ามาช่วยชายหนุ่มเสมอ จนหล่อนมีปากเสียงกับอรัญญาหลายครั้ง จนเกือบจะวางมวยกันเลยทีเดียว
หล่อนคลั่งแค้น และต้องการจะกระชากหน้ากากของชายหญิงคู่นี้ออกมาให้บิดาเห็นให้ได้ เพราะหล่อนมั่นใจว่าสองคนนี้จะต้องมีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกันอย่างแน่นอน
“คุณหนู รอลำไยด้วยค่ะ”
“ก็เดินให้มันเร็วๆ สิ เดี๋ยวก็จับนังแม่มดกับชู้รักไม่ได้กันพอดี”
วีรยาเดินแกมวิ่ง โดยมีลำไยที่วิ่งตามมาติดๆ หอบแฮ่กๆ ข้างหู ไม่ช้าก็มาถึงที่หน้าห้องพักของบุคคลเป้าหมาย หล่อนเม้มปากแน่น และเอียงหน้าเอาหูฟังที่ประตู
“ได้ยินอะไรไหมคะคุณหนู”
ลำไยเอ่ยถามเจ้านายด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“ไม่ได้ยินอะไรเลยลำไย”
“งั้นเราพังประตูเข้าไปเลยดีไหมคะ”
วีรยาเลิกเงี่ยหูฟังที่บานประตูแล้ว หันมาจ้องมองสาวใช้คนสนิท
“จะดีเหรอลำไย”
“ถ้าไม่ทำ คุณหนูก็จะจับไม่ได้คาหนังคาเขานะคะว่าสองคนนั้นกำลังทำเรื่องบัดสี”
“นั่นสิ”
วีรยาเห็นด้วยขึ้นมาทันที หล่อนถอยออกห่างประตู และเงื้อเท้าขึ้นจะถีบ แต่ประตูก็เปิดกว้างออกเสียก่อนด้วยฝีมือของเตศวร และนั่นก็ทำให้ร่างของหล่อนเซถลาเข้าไปในห้องพักของเตศวร และล้มคว่ำขมำอยู่กับพื้นห้องเต็มแรง
“คุณหนู...”
ลำไยรีบวิ่งเข้าไปประคองด้วยความตกใจ และละล่ำละลักถาม
“คุณหนูไม่เจ็บใช่ไหมคะ”
วีรยาน้ำตาปรอยเพราะเจ็บและจุก
“ไม่เจ็บก็ไม่ใช่คนแล้วล่ะ ลำไย”
ลำไยหน้าเสียก่อนจะรีบพยุง เจ้านายให้ลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว
“พี่เตเปิดประตูออกมาทำไมคะ เห็นไหมว่าคุณหนูล้มหน้าคว่ำเลยเนี่ย”
เตศวรระบายยิ้มหยัน หรี่ตามองหน้าลำไยและวีรยาด้วยสายตาเย็นชา
“ผมจะไปรู้หรือครับว่าจะมีพวกผู้หญิงสติไม่ดีมายืนอยู่หน้าประตูห้องน่ะ”
“พี่เตว่าคุณหนูเป็นคนบ้าเหรอ” ลำไยถามกลับด้วยความไม่พอใจ
“นี่ลำไย ไม่ต้องอธิบายเพิ่ม ฉันมีสมอง ฉันเข้าใจที่ไอ้คนปากเสียมันพูดดี”
“ค่ะ คุณหนู”
ลำไยหน้าเจือน และรีบสงบปากสงบคำ ในขณะที่วีรยาเดินเข้าไปหยุดตรงหน้าของกรรมกรที่ทั้งหล่อทั้งบึกบึน และพยายามข่มใจไม่ให้สั่น