กบฏรักหัวใจปรารถนา

95.0K · จบแล้ว
พันแสงจันทร์ /ลิลลี่ โจนส์/ ลิลเอง /กำไลแก้ว
66
บท
7.0K
ยอดวิว
7.0
การให้คะแนน

บทย่อ

นิยายแนวโคแก่(จ้อง)เคี้ยวหญ้าอ่อนโดยที่หญ้าอ่อนก็พร้อมเหลือเกินจะให้เคี้ยว ..... เขาพยายามแล้วที่จะหักห้ามใจ แต่ไฟปรารถนานั้นช่างแรงกล้านัก เขาอาจมีแรงต้านทานสตรีอื่น แต่ไม่ใช่กับเด็กในปกครองวัยสิบแปดที่เขารู้แน่ๆว่ายังบริสุทธิ์ผุดผ่อง ........... เธอจะทำยังไงหนอ ให้ผู้ปกครองจอมเผด็จการรับรู้ว่าเธอไม่ใช่เด็กแปดขวบ แต่เป็นสาวเต็มตัว มีอารมณ์และอยากมีความรักความใคร่ไปพร้อมกัน โดยมีเขาเป็นครูผู้สอนแต่เพียงผู้เดียว สปอยเนื้อหาพาเลือดกำเดากระฉูดบางช่วงจ้า “อะ.....อา....กัณห์” เสียงเรียกชื่อเขาแทบฟังไม่เป็นภาษา เพียงแค่เขาส่งนิ้วลงไปนวดคลึงติ่งยิ่งที่กำลังคาบท่อนลำเขาไว้เต็มปากเต็มคำ “อา... กัณห์ อย่า อูยส์... แจ้เสียว!” ลงถึงขั้นเจ้าตัวพลั้งเผลอปล่อยคำพูดเช่นนี้ออกมา แปลว่าวิธีการของเขาได้ผลดีเยี่ยม เป็นโอกาสของเขาที่จะกำกับแม้ขณะตกเป็นเบี้ยล่าง “เสียวก็รีบจัดการอาเสียสิ” ปากเขาบอก นิ้วยังคลึงไม่เลิก ปัญจมาแทบจะคิดอะไรไม่ออกแล้ว หล่อนถูกทำให้หัวหมุนเป็นลูกข่างด้วยสัมผัสแผดเผา จนต้องรีบยกสะโพกให้ช่องทางของตนว่างเปล่าแม้เพียงชั่วอึดใจ เพื่อลดความเสียวเสียดแทบจุกอก แต่ด้วยความเสียดายในความอบอุ่นแนบชิดจากท่อนลำเขื่อง หลังจากยกสะโพกร่อน ก็กลับปล่อยทิ้งตัวลงไปใหม่ เพราะโหยหาการเติมเต็ม “แจ้....แจ้จ๋า เร็วอีกคนดี!” ไม่น่าเชื่อ ว่าเสียงร้องคราง เสียงวอนขอจากคนตัวใหญ่ใต้ร่าง จะทำให้หล่อนยิ่งฮึกเหิม ดราม่าก็มีนะจ๊ะ “อะไรนะ!?” เสียงแผดแทรกตัดคำบอกเล่าที่ยังไม่จบประโยค “จะไปจากบ้านนี้อย่างนั้นหรือ? ทำไม? คิดบ้าอะไรขึ้นมาอีกล่ะ?” ร่างสูงที่เพิ่งนั่งลง กลับยืนผงาด แววตาเครียดๆ มองลงมาที่ร่างอ้อนแอ้นบนเก้าอี้ แต่ทั้งๆ ที่ในใจเดือดปุด สมองส่วนหนึ่งยังอดคิดไม่ได้ว่านานแค่ไหนแล้ว ที่เขาไม่ได้กอดร่างอรชร ได้รัก ได้สัมผัสความเป็นหญิงที่แสนจะนุ่มนวลหวานหอมอย่างที่ใจปรารถนา และถวิลหาอยู่ทุกโมงยาม “อากัณห์นั่งลงเถอะค่ะ” เสียงอ่อนๆ บอกมาเรียบๆ “แจ้อยากคุยดีๆ มากกว่าจะต้องมาทะเลาะกัน” “อาไม่ได้จะชวนทะเลาะนะ แจ้นะสิ พูดอะไรออกมารู้ตัวหรือเปล่า?” “สติแจ้ยังดีค่ะ เพราะงี้ ถึงอยากคุยกับอากัณห์อย่างมีเหตุมีผล” “อามองไม่เห็นว่าจะมีเหตุผลตรงไหน แล้วก่อนที่จะคิดอะไรบ้าๆ มากไปกว่าที่คิดอยู่ อย่าลืมว่าแจ้เป็นเด็กในปกครองของอา” หน้าเรียวเมินไปจากเขาครู่หนึ่งจึงหันกลับมาพูด “ถ้าอากัณห์เคร่งครัดต่อหน้าที่ผู้ปกครองนัก แจ้ก็จะบอกให้รู้เผื่อจะลืม อีกไม่กี่วันแจ้ก็จะอายุครบยี่สิบปีบริบูรณ์แล้วค่ะ” เขาไม่ได้ลืม ว่าอีกแค่ห้าวันเด็กสาวภายใต้ความดูแล ก็จะบรรลุนิติภาวะ และเขาก็แพลนไว้หมดแล้ว จะทำอะไรบ้าง ในวันที่ไม่ต้องรับบทบาทผู้ปกครองคนที่เขาต้องการจะมอบฐานะอื่นให้มากกว่า ที่เขายังเก็บงำ ไม่พูดอะไรออกไป ก็เพราะรอเวลาอันเหมาะสมที่กำลังจะมาถึง แล้วยังไง อยู่ๆคนที่เขาตั้งใจมอบความประหลาดใจ สุขสมใจให้ ก็บอกจะไปจากเขา “คงนั่งนับชั่วโมงรอเลยสินะ” ความน้อยใจทำให้ลืมตัว ทำเสียงแดกดันออกไป “แจ้แค่ไม่อยากอยู่เป็นภาระอากัณห์ต่อไปก็เท่านั้นเอง” ปัญจมาพยายามจะพูดดีๆ จริงๆ หล่อนก็ไม่เข้าใจ เขาควรดีใจสิ ที่หล่อนจะไปจากบ้านของเขา เพื่อที่เขาจะได้พาผู้หญิงที่ใช่ เข้ามาในบ้านได้สะดวกใจ นี่อะไรมาทำหน้าถมึงทึงบึ้งตึงใส่ ราวกับว่าหล่อนทำผิดคิดร้าย “ภาระ!” เสียงห้าวห้วน ไม่เหลือแล้วความนุ่มนวล “แค่นี้เองรึที่แจ้คิดว่าอารู้สึก ความรับผิดชอบในฐานะผู้ปกครองเนี่ยนะ?” “แจ้ไม่รู้หรอกค่ะ ว่าอากัณห์รู้สึกยังไง” เสียงตอบกลับมาฟังว่าสั่นนิดๆ “แต่ที่แจ้จะไป....อยู่ที่อื่น ก็เพราะนึกถึงความเหมาะสมต่างๆ” “ถึงขั้นนี้ยังมีความเหมาะสมบ้าอะไรอีกล่ะ” เสียงโต้ทันควัน นอกจากจากดังขึ้นยังฟังขุ่นขึ้งยิ่งขึ้น “หรือเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าไม่ควรอยู่ให้อาเอาอีกต่อไป เกิดจะเสียดายเนื้อตัวขึ้นมาตอนนี้” “อากัณห์!”

นิยายรักโรแมนติกนิยายปัจจุบันโรแมนติก

ความฝันของสาวน้อย

ร่างสูงสง่าเดินเข้ามาช้าๆ

สายตาที่จ้องมาคมวาว ราวกับว่าไม่ใช่สายตาของผู้ปกครองหนุ่มที่หล่อนคุ้นเคย ความคมปลาบกรุ้มกริ่ม เหมือนจะสื่อความนัยบางอย่าง แต่ทั้งที่ไม่เข้าใจแน่ชัด อกใจสาวน้อยผู้ไร้ประสบการณ์เชิงรักก็ยังต้นโครมคราม ตามด้วยอาการวาบหวิวจากช่องท้อง แล่นปราดสู่จุดสงวนลี้ลับที่ไม่เคยเผยแก่สายตาใครมาก่อน

แล้วร่างอ้อนแอ้นก็ถึงกับสั่นสะท้าน ทันทีที่ตกอยู่ภายใต้วงแขนแข็งแรง

“แจ้...”

เสียงมีกังวานห้าวนุ่มนวลกระซิบเรียกข้างริมหูเล็ก

“ขา” เสียงขานรับเบาหวิว เรี่ยวแรงให้แข้งขายืนหยัดแทบจะไม่หลงเหลือ

“ขอให้อาได้รักแจ้เถอะนะ”

จะตอบอย่างไรดี.... หล่อนจะตอบอย่างไร

ใจน่ะอยากตอบตกลงสักร้อยครั้ง แต่ปากกลับหนักอึ้ง

“รู้ใช่ไหมว่าอาต้องการการแจ้ อยากกอด”แขนล่ำสันมัดร่างอ้อนแอ้นแน่นเข้า “อยากจูบ...”ปากรุมร้อนแนบลงมาชิดปากเย็นๆ อึดใจเพื่อเป็นการสาธิต “และอยาก...ทำทุกอย่างให้แจ้ของอามีความสุข อนุญาตอาเถอะนะคนดี”

เรี่ยวแรงที่มีพอแค่พยักหน้ากับอกกว้างตึงไปด้วยมัดกล้ามแน่น

เหมือนกับว่าเขาใจจดจ่อรอให้หล่อนอนุญาตอยู่แล้ว ทันทีที่รับรู้ในอาการพยักหน้านิดเดียวของหล่อน ร่างหล่อนก็ลอยลิ่วขึ้นสู่วงแขนแข็งแรง เมื่อถูกปล่อยอีกครั้งสิ่งรองรับคือที่นอนหนานุ่ม

สมองของหล่อนคงงงงวยกับความสมหวังที่ฝันมาตลอด สักวันผู้ปกครองจอมเผด็จการรูปหล่อจะหันมาให้ความสนใจหล่อนอย่างหนุ่มให้ความสนใจสาว ไม่ใช่อย่างผู้ใหญ่สนใจเด็กเล็กคนหนึ่ง กว่าจะได้สำนึกว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป ร่างสูงใหญ่ก็แนบลำตัวลงมาทาบทับ

ปากได้รูปงามที่หล่อนเคยนึกอยากสัมผัสด้วยปลายนิ้วเพื่อให้รู้ว่าจะนุ่มเหมือนปากหล่อนหรือไม่ ก็ซุกไซ้ลงชิดลำคอเรียวเล็กของหล่อน ก่อความซ่านสยิวแปลกๆ แก่หล่อน

ปากอุ่นเป็นร้อนนั้นไม่ได้อยู่นิ่งกับที่ แต่กำลังลามลงหาอกอวบตั้งเต้าที่กำลังสะท้านไหวตามแรงหอบหายใจของผู้เป็นเจ้าของ

“อ๊าซ์...”

หล่อนหลุดเสียงครางออกมา เพราะเสียวหัวนมที่กำลังถูกดูดดึงจากปากหยักได้รูป

“อะ...อากัณห์”

เสียงเรียกผู้ปกครองจอมเผด็จการที่หล่อนเคยอยากลูบไล้ผิวกายเขา สั่นพลิ้ว

“อูยส์...อย่าค่ะ! อย่า...”

เสียงร้องห้ามลากยาว เมื่อรับรู้ได้ว่านิ้วยาวใหญ่กำลังรุกคืบเบิกทางที่ไม่เคยมีสิ่งใดเล็ดลอดเข้าไป

ปากห้ามปราม แต่กายสาวบิดส่าย แอ่นสะโพกเบียดเนินนูนเป็นกระเปาะเข้าหามือใหญ่ อย่างวอนขอความแนบชิดยิ่งกว่าที่เป็นอยู่

ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!

“คุณแจ้ค้า ตื่นยังคะ สายแล้วนะคะ”

ร่างบางที่กำลังนอนบิดส่ายอยู่บนเตียง ผวาเฮือก เปลือกตาปิดสนิทอย่างคนกำลังหลับเบิกออกจากกัน

บ้าบอที่สุด! นี่แค่ฝันไปเองหรอกหรือเนี่ย?

“คุณแจ้...”

เสียงปลุกจากฝันวาบหวามเรียกเข้ามาอีก

“เออ ได้ยินแล้วน่า”

บอกออกไปเสียงหงุดหงิดเพราะฝันค้างๆ คาๆ คือก็ไม่รู้หรอกว่า ถ้าไม่ถูกปลุกเสียก่อน ความฝันจะไปสิ้นสุดลงตรงไหน

“อีกครึ่งชั่วโมงจะตั้งโต๊ะอาหารเช้าแล้วนะคะ”

“เดี๋ยวลงไป”

ปัญจมาถอนใจเฮือก รู้สึกเลยว่าเช้านี้ตัวเองอารมณ์ไม่ผ่องใสนัก

“อากัณห์บ้า! ทำไมต้องตามมารบกวนกันกระทั่งในฝันด้วยนะ” ปากบางบางอิ่มงึมงำกับตัวเอง ตากลมใสสีน้ำตาลสวยขุ่นมัว

ความขัดอกขัดใจมีแน่ๆ แต่ที่มีมากกว่า อารมณ์ตื่นตัวของหญิงสาวที่ถูกเร้า จนเกิดความปรารถนาอยากลิ้มลองในสิ่งที่ตัวเองก็ยังไม่รู้แน่ หากได้ลิ้มรสเข้าจริงๆ จะวิเศษ แสนสุขอย่างที่จินตนาการอยู่บ่อยๆ หรือไม่

ตอนที่ 1

อกัณห์ นภนนท์ ถอนใจเฮือก รับรู้ว่าความสงบทางใจที่หาได้ยากยิ่งในระยะหลังๆ มานี้ของเขา สิ้นสุดลง ทันทีที่ร่างอรชรอ้อนแอ้นขัดกับสัดส่วนบ่งบอกความเป็นอิตถีเพศ เดินเข้าประตูห้องนั่งเล่นที่เขากำลังนั่งหย่อนใจในวันหยุด

พอเห็นเขาเจ้าหล่อนก็หยุดกึก แล้วสีหน้าเฉยๆ ก็เปลี่ยนเป็นร่าเริงสดใสพอๆ กับเสียงทักทายจากปากอิ่มสีชมพูระเรื่อด้วยเลือดฝาดแห่งวัยสาว

“แน่ะ! วันนี้อากัณห์อยู่บ้าน ทำไมคะ หรือสาวไม่ยอมรับนัด”

“พูดมากเราน่ะ! แล้วนี่ไปไหนมาแต่เช้า?”

อกัณห์พยายามตีหน้าเคร่งขรึม หวังขู่ให้แม่หลานสาวต่างสายเลือดเกิดความยำเกรง เลิกทำหน้ายิ้มแป้นยั่วเย้าอย่างกับเขาเป็นเพื่อนเล่นเสียที

แต่ดูเหมือนจะไม่ได้ผล...

“เช้าอะไรกันคะ”

เสียงใสๆ ค้านหลังพาตัวเองเข้ามาหยุดตรงหน้าเขา

“จะสิบเอ็ดโมง สายแล้วค่ะ แล้วนี่อากัณห์อ่านอะไรอยู่คะ”

ไม่พูดเปล่า ขณะที่พูดยังขยับมายืนข้างๆ โน้มตัวยื่นหน้ายื่นตาเข้ามาใกล้ เพื่อมองหนังสือในมือเขา

ใกล้เสียจนหน้าเรียวเนียนใส ประกอบด้วยเครื่องหน้าไม่ว่าปาก ตา จมูก คิ้ว คาง รับกันอย่างเหมาะเจาะ แทบจะชิดหน้าเขา จนเขาต้องเป็นฝ่ายผงะหนี ถลึงตาขุ่นๆ เข้าใส่

“นี่!”เขาทำเสียงดุ “จะพูดจะจาอะไรกับผู้หลักผู้ใหญ่ ก็ทำกิริยาให้มีมารยาทหน่อย ไม่ใช่มายืนค้ำหัวหาความคารวะไม่มีแบบนี้ ลูกผู้ดีเขาไม่ทำกันหรอกนะที่จะเห็นญาติผู้ใหญ่เป็นเพื่อนเล่น”

“จะจับบทเทศนาแจ้อีกอีกแล้วเหรอคะ เฮ้ออออออ”

มีเสียงถอนใจยาวอย่างตั้งใจให้เขาได้ยิน แม้ใบหน้าเนียนใสจะถอยห่างไปแล้ว

“แจ้!”อกัณห์เรียกดุๆ