บทที่ 4
"อะไรคือห้อง 44" วิชุดาหันมองตามสโนไวท์ที่พูดแล้วก็รีบเดินหนีไป "บอกมาเดี๋ยวนี้นะวิน ว่าอะไรคือห้อง 44"
แต่เทวินไม่ได้ตอบ เขายังคงตักอาหารขึ้นมาทานเหมือนว่าไม่ได้เกิดอะไรขึ้น
"เธออย่ายอมนะวิ ฉันคิดว่าต้องเป็นเบอร์ห้องที่แม่นั่นอยู่แน่เลย" บ่างช่างยุสะกิดพูดเบาๆ
"วิไม่หิวแล้วค่ะ" วิชุดาพูดพร้อมกับขยับถ้วยออกทั้งๆ ที่ยังไม่ได้ทานอะไร แล้วก็ลุกขึ้น
"แกจะยอมแพ้เหรอ"
เทวินเหลือบตามองเพื่อนของวิชุดาเล็กน้อย ก่อนที่จะหันกลับมาสนใจอาหาร
หลายคนต่างก็ให้ความสนใจตอนที่วิชุดาและเฟิร์นเดินตามรุ่นน้องคนนั้นออกไป เพราะคิดว่าคงมีเรื่องแล้ว
"เธอไม่น่าหาเรื่องเลยนะ" ข้าวหอมที่เดินตามมาคิดว่าจะเรียกสติเพื่อน
"ถ้าเธอกลัว จะไม่คบกับฉันก็ได้นะข้าวหอม" สโนไวท์เปิดใจคบกับข้าวหอมคนแรก ที่จริงในมหาวิทยาลัยยังไม่รู้หรอกว่าเธอเป็นใคร
"กลัวน่ะฉันกลัวแน่ แต่ฉันคงไม่ทิ้งเพื่อนเพราะเรื่องแค่นี้หรอก เธอก็ระวังตัวหน่อยแล้วกันควบคุมอารมณ์ให้ได้" แต่ขณะที่ทั้งสองหยุดคุยกัน งานก็ได้เข้าอีกครั้ง ..รุ่นพี่สองคนนั้นเดินมาถึง คนหนึ่งดักหน้า อีกคนอยู่ด้านหลัง
"ถึงฉันไม่หา..เรื่องก็มาหาฉันอยู่ดี" ใครอยากจะสร้างศัตรูไม่มีหรอก แต่ถ้าศัตรูรนหาที่สโนไวท์ก็จะจัดให้
"เธอรู้ไหมว่าเทวินเป็นแฟนของฉัน"
"รุ่นพี่พูดกับฉันเหรอคะ"
"อย่ามาตอแหล"
"พูดไม่เพราะเลยนะคะรุ่นพี่"
"อย่ามาแสร้งทำเป็นมารยา ตรงนี้ไม่มีผู้ชายให้เธออ้อนหรอก"
"กลับมาเรื่องเดิมดีกว่าค่ะ เมื่อสักครู่ได้ยินว่ารุ่นพี่เทวินเป็นแฟนของ.."
"ใช่! เทวินเป็นแฟนเพื่อนฉัน" คนที่ตอบก็คือเฟิร์นซึ่งยืนอยู่ด้านหลัง
"ก็แค่แฟน" นี่ขนาดยังไม่เริ่มแผนการที่คุยกันไว้งานก็เข้ามาแล้ว
"หน้าด้าน"
"ขอบคุณค่ะที่ชม ฉันมีเรียนช่วงบ่ายขอตัวนะคะ"
"นี่แก!" เฟิร์นยื่นมือไปกำลังจะคว้าผมของสโนไวท์ แต่จังหวะนั้นสโนไวท์พลิกตัวหมุนแล้วจับมือของเฟิร์นบิด
"โอ๊ยฉันเจ็บนะ"
"สโนว์พอเถอะ" ข้าวหอมเห็นว่ามีการลงไม้ลงมือก็เลยห้าม
"ฉันเห็นแก่เพื่อนนะ ปล่อยก็ได้" อย่างที่รู้กันอยู่ว่าพ่อของเธอเป็นใคร กองทัพให้ลูกสาวเรียนวิชาป้องกันตัวไว้ เผื่อจะช่วยเหลือตัวเองได้
"เธอคงรู้ล่ะสิ ว่าพ่อของเทวินเป็นใคร ถึงอยากสบายทางลัด" วิชุดาพูดขึ้นในขณะที่สโนไวท์กำลังจะเดินหนีไป
"หึ.." สโนไวท์นึกขำ ทำไมเธอจะไม่รู้ เพราะพ่อของเทวินเป็นเพื่อนรักกับพ่อเธอ แถมมียศท่านนายพลเหมือนกัน
"แสดงว่าเธอรู้..?" วิชุดาคิดว่ารุ่นน้องที่เข้ามาใหม่ไม่น่าจะรู้เรื่องนี้ เพราะพวกเธอก็เพิ่งรู้เมื่อปี 3 นี้เอง
"คิดจะฝันสูง ดูตัวเองด้วย เธอรู้ไหมว่าเพื่อนฉันเป็นใคร เพื่อนฉันเหมาะสมที่สุดแล้วกับลูกชายท่านนายพล"
"ขี้เกียจฟังว่ะ ไปเถอะข้าวหอม" ยิ่งคุยก็ยิ่งจะเป็นเป้าสายตา ถ้าแม่แอบมาเห็นงานเข้าแน่ สโนไวท์ก็เลยคิดว่าปล่อยพวกนางไปก่อน
เย็นวันเดียวกันหน้ามหาวิทยาลัย..
"กลัวแฟนรู้เหรอคะก็เลยนัดข้างนอก"
"เราอย่าคุยเรื่องนั้นดีกว่า เข้าเรื่องเลย"
"เข้าเรื่องก็เข้าเรื่อง รุ่นพี่บอกว่าจะเล่นละคร..เล่นยังไง"
"พรุ่งนี้เราจะนัดผู้ใหญ่คุยกัน"
"ตาย..ไม่พี่ก็ฉันนั่นแหละจะตาย ถ้าแม่รู้"
"ก็อย่าให้ท่านรู้สิ" เทวินรู้ดีว่าแม่สโนไวท์หวงลูกสาวยิ่งกว่าอะไรทั้งนั้น
"ไม่ให้แม่รู้ถ้างั้นให้พ่อรู้เหรอ?"
"พี่พอจะคุยกับคุณพ่อได้" เทวินเรียกเพื่อนของพ่อแบบนี้เหมือนกันทุกคน
"แล้วแต่..เออ..ว่ามีฉากน้ำตาด้วยไหม"
"ถ้าไม่สำเร็จคงต้องร้องไห้"
"แล้วฉันใช้น้ำตาเทียมได้ไหมล่ะ"
"จะมีเวลาหยอดน้ำตาเทียมหรือไง"
"ฉันไม่เคยเสียน้ำตาเพราะผู้ชาย แต่ก็เคยเสียครั้งหนึ่งตอนหมาตัวผู้ตาย"
"หึหึ" คนยิ้มยากแบบเทวินถึงกับขำ เขาไม่ได้เจอหน้าสโนไวท์นานมากแล้ว เพิ่งมาเจอกันตอนอยากขอความช่วยเหลือจากเธอ
"ถามจริงเถอะ รุ่นพี่รักผู้หญิงคนนั้นไปได้ยังไง"
"ทำไมถึงอยากรู้"
"เปล่าหรอกไม่อยากรู้ก็ได้ พรุ่งนี้เจอกันที่ไหนไลน์มาบอกแล้วกัน" ว่าแล้วสโนไวท์ก็เดินจากไป
พอเธอไปแล้วเทวินถึงได้มาคิดถึงคำพูดของเธอ ..ที่จริงเขาไม่รู้หรอกว่ารักหรือไม่รัก แต่ที่ยอมตกลงเป็นแฟนกับวิชุดา เพื่อจบปัญหาเรื่องที่ผู้หญิงเข้าหา เพราะแต่ละวันไม่เป็นอันเรียนเลย เขาก็เลยคิดว่าถ้าขึ้นสถานะกับใครสักคน ปัญหาเรื่องพวกมีก็คงหมดไป